วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2560

[Fic KNB] Summer snow (AkaKuro) : Chapter XXII เสี้ยววิญญาณ (NC)


[Fic KNB] Summer snow (AkaKuro) 

Chapter XXII เสี้ยววิญญาณ 

Rate : NC-18









'นี่ต่างหากที่เขาเรียกว่าจูบ'






ภาพทุ่งหญ้าสีเขียวขจีท่ามกลางท้องฟ้าสีครามลอยเข้ามาในห้วงความคิดของคุโรโกะ ความทรงจำของครั้งแรกที่ได้ลองขี่ม้า ยังไม่ติดตรึงเท่าสัมผัสแรกของริมฝีปากที่ทาบทับลงมา เรียวปากของอีกฝ่ายบดจูบเข้ามาช้าๆ เปลี่ยนความเบาบางนุ่มนิ่มเป็นความรุ่มร้อนจนลมหายใจของเขากระตุกสั่น ยังไม่ทันจะได้ผละหนีก็โดนรวบตัวเข้าไปกอดแน่นอย่างรู้ทัน และก่อนจะทันได้รู้สึกตัว สัมผัสชุ่มชื้นและอุ่นร้อนก็บุกแทรกเข้ามาในปากของเขาอย่างค้นหา




เกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นเล็กๆอย่างสนุกสนานจนแทบหมดแรง พอเห็นว่าเหยื่อตัวน้อยในอ้อมแขนสิ้นฤทธิ์ ก็ยิ่งไล่สำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความเร่าร้อนที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เฝ้าวนเวียนรังแกให้เด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างเขาต้องส่งเสียงครางประท้วงซ้ำแล้วซ้ำแล้ว จนเขาต้องขยำเสื้อบอกแรงๆว่าลมหายใจใกล้หมดเต็มทีแล้ว อีกฝ่ายถึงจะยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระ





หากว่าภาพความทรงจำของจูบแรกเป็นเช่นนั้น



รสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้เขาตอนนี้กลับยิ่งร้อนแรงกว่าครั้งนั้นมากมายนัก





"อือ...อือ!!...อื้อ!!" คุโรโกะส่งเสียงประท้วงอย่างขวัญเสีย เมื่อโดนบดขยี้ริมฝีปากอย่างเร่าร้อนรุนแรงจนอุณหภูมิในกายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแม้จะเป็นในยามกลางคืนของช่วงฤดูหนาว ถึงจะเคยจูบกันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกกลืนกินไปทั่งตัวเพียงแค่สัมผัสที่ปากได้ขนาดนี้มาก่อน ไออุ่นจากลมหายใจที่รินรดอยู่ข้างแก้มยิ่งทวีความร้อนแข่งกับสัมผัสเปียกชื้นที่เกี่ยวพันกันยุ่งเหยิงอยู่ในริมฝีปากเล็กจนยากจะแยกออกว่าด้านไหนที่ร้อนกว่ากัน



ทั้งแนวฟัน กระพุ้งแก้ม และเพดานปากถูกไล่ดูดกลืนความหวานไปจนหมดสิ้นไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว ดวงตาสีฟ้าสั่นไหวเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือร้อนที่ขยับปลดกระดุมเสื้อนอกของเครื่องแบบนักเรียนเขาออกไปทั้งๆที่ยังไม่ยอมคลายจูบ ก่อนที่มันจะถูกโยนทิ้งไปให้พ้นทางอย่างไม่ไยดี



เด็กน้อยหอบหนักเมื่ออาคาชิยอมปล่อยให้เขาได้พักหายใจ ริมฝีปากนุ่มแดงช้ำตักตวงเอาอากาศเข้าไปถี่เร็ว ก่อนจะร้องอุทานออกมาเบาๆเมื่อหนุ่มผมแดงใช้เวลาช่วงที่ปล่อยให้เขาเป็นอิสระเพียงเสี้ยววินาที ปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนเหลือแต่กางเกง ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบอย่างหนักหน่วงอีกครั้งอย่างไม่รู้จักพอ



อาคาชิจับยึดใบหน้าอ่อนเยาว์เอาไว้แน่นเพื่อที่จะไล่เก็บกวาดทุกหยาดหยดแห่งความอ่อนนุ่มไว้ได้อย่างไม่ตกหล่น ยิ่งสัมผัสเขาก็ยิ่งรู้สึกคล้ายกับจะเป็นบ้า จนต้องปล่อยให้ความปรารถนาที่เก็บลึกไว้มานานแสนนานล้นทะลักออกมา กี่ครั้งแล้วที่ต้องยับยั้งชั่งใจไว้ นานแค่ไหนแล้วที่เขาต้องอดทนไม่สัมผัสเด็กคนนี้




เส้นด้ายแห่งศีลธรรมที่ฉุดรั้งเขาเอาไว้มาตลอดขาดสะบั้นลงไม่เหลือชิ้นดี



คืนที่เขาจะได้ครอบครองเด็กคนนี้...คืนที่เขาจะทำให้เท็ตสึยะเป็นของเขาคนเดียว





อาคาชิ เซย์จูโร่มองข้ามอายุสิบสามปีของคนที่กำลังร้องครางประท้วงในลำคออยู่ด้านใต้ไปอย่างเฉยเมย ก่อนจะหันมาโถมกายกอดรัดร่างเล็กบนเตียงจนแทบไม่เหลือช่องว่าง เฝ้าวนเวียนตักตวงความสุขจากริมฝีปากเล็กไปอย่างไม่รู้เบื่อ ก่อนจะผละออกมาให้คนที่ถูกสัมผัสได้พักหายใจอีกครั้ง พร้อมกับหันไปไล่ขบเม้มซอกคอขาวอย่างหลงใหลแทน



"ฮึก!" คุโรโกะที่กำลังหายใจเอาอากาศเข้าไปกระตุกเกร็งเมื่อรู้สึกได้ถึงฟันแหลมคมที่ทั้งขบทั้งกัดเขาเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวจนเผลอร้องออกมาเบาๆ เด็กชายผมฟ้ามองค้อนคนที่ทำเหมือนเขาเป็นขนมไว้เคี้ยวเล่นอย่างงอนๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพรุ่งนี้มันจะต้องเป็นรอยแดงไว้ให้เขาอับอายใครต่อใครที่ถามถึงที่มาของมันอย่างแน่นอนที่สุด ในขณะที่คนเจ้าเล่ห์หวังจะตีตราเด็กน้อยไว้เป็นของตัวเองคนเดียวก็ทำเป็นหูตาบอดมองไม่เห็นสายตาโกรธเคืองของเขาไปอย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด



อาคาชิแตะปากจูบลงมาตามผิวเนียนแสนบริสุทธิ์ช้าๆอย่างไม่เร่งร้อนพร้อมๆกับฝากรอยแดงเหมือนสีผมตัวเองไว้ยังทุกๆที่ไล่ผ่านมาอย่างสนุกสนาน ก่อนจะดึงเสื้อเชิร์ตซึ่งหลบซ่อนอยู่ใต้เครื่องแบบนักเรียนของอีกฝ่ายมาตลอดอย่างแรงจนรังกระดุมขาดกระเด็น หนุ่มน้อยวัยมัธยมต้นเจ้าของเครื่องแบบร้องเบาๆอย่างตกใจเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็ทำท่าร้อนใจขี้เกียจปลดกระดุมทีละเม็ดขึ้นมาเฉยๆ ใบหน้าแดงระเรื่อเริ่มขึ้นสีจัดหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นว่ากลุ่มผมสีแดงที่คุ้นเคยกำลังเฝ้าคลอเคลียอยู่กับแผ่นอกขาวของเขา



"อ๊ะ...ย...อย่านะ" หนุ่มน้อยไร้เดียงสาตัวสั่นสะท้านเมื่อโดนคนที่คร่อมทับอยู่ก้มหน้าลงมาครอบครองจุดอ่อนไหวบนแผ่นอกทั้งสองข้างอย่างกะทันหัน ขณะที่มือซุกซนของอีกฝ่ายยังไม่วายลูบไล้ไปตามต้นขาอย่างเชื่องช้าราวกับต้องการหยั่งเชิงให้หัวใจของเขาสับสนกับสัมผัสที่เต็มไปด้วยความต้องการที่ล้นปรี่



"อ๊า...!" คุโรโกะหลุดเสียงครางเมื่อโดนฝ่ามือหนาแกล้งหยอกเย้ากับส่วนอ่อนไหวที่อยู่ใต้ร่มผ้าอย่างจงใจจนใบหน้าแดงก่ำ เด็กน้อยตกใจกับเสียงครางแว่วหวานที่ดังก้องออกมาจากปากของตัวเองจนต้องยกมือสองข้างขึ้นมาปิดปากไว้แน่นอย่างอับอาย ขณะที่หนุ่มร่างสูงด้านบนยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นคนอ่อนวัยกว่าเริ่มเรียนรู้ถึงอวัยวะที่ไหวต่อสัมผัส และชวนให้หวั่นไหววาบวามทุกครั้งที่มือของเขาพาดผ่าน



ยิ่งเห็นคนตัวเล็กสะอื้นไห้ด้วยความรู้สึกเสียวซ่านที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเท่าไหร่ หนุ่มผมแดงก็ยิ่งได้ใจและยิ่งอยากรังแกอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีกอย่างอดไม่ได้ อาคาชิหัวเราะในลำคอเบาๆขณะดึงรั้งกางเกงของคุโรโกะลงมากองอยู่ที่ขาและโยนมันออกไปอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันมาแยกขาที่กำลังสั่นระริกของเด็กน้อยออกจากกันแทน พร้อมกับเริ่มขยับนิ้วทั้งห้าไปตามผิวสัมผัสของสิ่งที่เริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับเขาขึ้นมาทีละน้อยอย่างเอ็นดู



"อื้อ...อึก...." ใบหน้าอ่อนหวานเปื้อนน้ำตาส่ายหน้าปฏิเสธอย่างไม่เข้าใจ ยิ่งถูกอาคาชิรูดรั้งสิ่งที่อยู่ในมือมากเท่าไหร่ ความรู้สึกบางอย่างก็ยิ่งวิ่งแล่นไปทั่วร่างกายจนยากจะควบคุม มือสองข้างยิ่งทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆในการช่วยกันปิดเสียงร้องของเขาเอาไว้ไม่ให้หลุดลอดออกมา จนริมฝีปากที่ยังไม่หายบวมเจ่อต้องกัดนิ้วตัวเองไว้แน่นด้วยความอับอายเมื่อความรู้สึกอึดอัดตรงช่วงล่างถูกกระตุ้นให้พุ่งสูงขึ้นจนอยากจะกรีดร้องระบายมันออกมาเต็มทน



"อย่ากลั้นเสียง..." คนขี้แกล้งกระซิบเสียงพร่าอยู่ข้างหูอย่างอ่อนโยนทั้งๆที่มือยังไม่ยอมหยุดขยับ มืออีกข้างเอื้อมมาเช็ดน้ำตาแห่งความปรารถนาของเขาแผ่วเบา ก่อนจะหัวเราะขบขันอย่างเอ็นดูระคนสงสารที่เห็นเขายังไม่ยอมปล่อยมือ



"ไม่ต้องเก็บไว้หรอก...ร้องออกมาเถอะ...ให้ฉันได้ยินเสียงของเท็ตสึยะ..." อาคาชิขยับมือเร็วขึ้น กระตุ้นให้อารมณ์ของเด็กน้อยพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า แต่กระนั้นคนดื้อรั้นของเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ และยังเอาแต่ส่ายหน้าสะอึกสะอื้นอยู่เช่นเคยต้องเขาต้องจูบที่ข้างขมับอีกฝ่ายเบาๆอย่างปลอบโยน



คุโรโกะใจชื้นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ่อนโยนของริมฝีปากเรียวที่กดจูบลงมาอย่างปลอบประโลม ในใจนึกขอบคุณอาคาชิอย่างซาบซึ้งใจที่เข้าใจความไร้เดียงสาของมือใหม่อย่างเขา และยอมให้โอกาสเขาได้ค่อยๆเรียน....



"อ๊ะ...ท่านเซย์จูโร่ จะทำอะไรครับ!"



นึกชมอีกฝ่ายยังไม่ทันจบ คนแรงเยอะกว่าก็แกะมือสองข้างของเขาที่ใช้ปิดปากตัวเองอยู่ขึ้นไปไว้เหนือศีรษะ ก่อนจะจับยึดเอาไว้จนขยับไปไหนไม่ได้



"ฮึก...ปละ..ปล่อยผมนะครับ...ไม่เอา..."


"ขอโทษนะเด็กน้อย...แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้...ก็ไม่ได้ยินเสียงที่อยากฟังน่ะสิ..."


"อ๊ะ...อย่า...อ๊า!!" ว่าจบอาคาชิก็ใช้มือข้างที่ว่างรังแกส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายต่อทันทีจนร่างเล็กหลุดเสียงครวญครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อไร้เครื่องกำบัง



เรียวปากบางส่งเสียงครางหวานออกมาดังลั่นเมื่อห้วงอารมณ์ดำเนินมาถึงขีดสุดจนต้องปลดปล่อยหยาดหยดสีขาวออกมาเต็มฝ่ามือหนาของคนที่อยู่ด้านบน แผ่นอกขาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยจ้ำแดงกระเพื่อมขึ้นลงถี่รัวอย่างเหนื่อยอ่อน



"หึหึ...เร็วจริงๆ...ยังอ่อนประสบการณ์ขนาดนี้เลยเหรอเท็ตสึยะ" ชายหนุ่มผมแดงหัวเราะเบาๆอย่างเอ็นดู จนคนที่โดนปรามาสเม้มปากแน่นอย่างเจ็บใจที่โดนหัวเราะเยาะ แต่อีกฝ่ายก็คุมเกมได้อย่างอยู่หมัดจนราวกับเขาเป็นเด็กเพิ่งหัดเดินจริงๆ

"เอ๊ะ...อ...อะไรน่ะครับ.." เด็กชายผมฟ้าอุทานเบาๆเมื่อรู้สึกถึงอะไรแข็งๆบางอย่างซึ่งกำลังถูไถอยู่กับต้นขาด้านในของเขาอย่างลามก

"ไม่ต้องกลัว...เซย์จูโร่น้อยแค่อยากจะเล่นด้วยเท่านั้นเอง" อาคาชิยิ้มกริ่ม ขณะที่ร่างเล็กด้านใต้อ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาเคารพตรงหน้าจะพูดอะไรทะลึ่งตึงตังแบบนี้ออกมาได้เต็มปากเต็มคำ



"อื้อ!!...ฮึก...ม...ไม่เอานะครับ...พอแล้ว"



คุโรโกะหอบหายใจแรงขึ้นเมื่อยังไม่ทันหายเหนื่อย นิ้วเรียวยาวก็ตวัดปาดของเหลวสีน้ำนมขึ้นมาพร้อมกับเริ่มสอดเข้ามาในกายของเขาช้าๆจนอารมณ์ที่เพิ่งดับมอดไปถูกจุดให้ลุกโพล่งขึ้นมาอีกครา



"ปากไม่ตรงกับใจเลยนะ ดูสิ...ขนาดเท็ตสึยะน้อยยังไม่โกหกเลย" ชายหนุ่มยิ้มร้าย พลางขยับนิ้วสอดลึกเข้ามาเรื่อยๆ เรียกให้น้ำตาแห่งความอึดอัดเอ่อคลออยู่เต็มอัญมณีสีฟ้าสวยอย่างงดงามจนยากจะละสายตาไปได้



เสียงร้องกระท่อนกระแท่นดังไม่หยุดเมื่ออาคาชิเริ่มเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปสำรวจในช่องทางสีหวานเป็นสองนิ้ว จนคนที่ยังโดนพันธนาการมือสองข้างไว้เผลอขยับสะโพกหนีอย่างหวาดกลัว



เสียงเฉอะแฉะดังก้องไปทั่วห้อง ชวนให้ใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบไม่อยากมองใบหน้าคมเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย แต่ยิ่งหลับตาลง สัมผัสที่ขยับเข้าออกอยู่ตรงช่วงล่างกลับยิ่งแจ่มชัดจนแทบจะร้องไห้



จมูกโด่งรั้นงดงามขยับเข้ามาสูดดมกลิ่มหอมสะอาดสดชื่นของกลุ่มผมสีฟ้าที่เขาหลงรัก กดจูบบนริมฝีปากนุ่มอีกครั้งเพื่อเบนความสนใจ ก่อนจะขยับนิ้วเพิ่มเข้าไปอีกจนร่างเล็กกระตุกเกร็งรัดนิ้วทั้งสามแน่น



"อื้อ...ฮึก" คุโรโกะส่งเสียงอยู่ในลำคอเมื่อความรู้สึกทรมานบีบรัดลงไปกองกันอยู่ตรงช่วงล่างจนน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม หัวใจดวงน้อยเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว ทั้งต้องการแต่ก็แสนผวา ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร แต่มันช่างอึดอัดและน่ากลัวเกินจะรับไหว ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ไม่รู้ว่าต้องขอร้องอีกฝ่ายเช่นไร...ถึงจะยอมช่วยให้เขาได้ระบายมันออกไปจนหมดสิ้น



"ฮึก...ฮึก...อึดอัด...ไม่เอาแล้ว...หยุดเถอะครับ" เด็กน้อยร้องไห้เบาๆอย่างไร้เดียงสา เพราะความไม่เข้าใจทำให้สองมือขยับดิ้นหนีอย่างอ่อนแรง ขาสองข้างดิ้นรนถอยห่างออกมาจากนิ้วทั้งสามอย่างตกตื่น จนช่องทางยิ่งบีบรัดนิ้วของอาคาชิแน่นจนแทบทนไม่ไหว



"ไม่ต้องกลัว...ใจเย็นๆ....เชื่อใจฉันนะ..." ร่างสูงยอมปล่อยทั้งมือสองข้างของคุโรโกะ ทันใดนั้นร่างเล็กก็ผลักไสเขาทันที แต่อาคาชิก็ยังโอบเด็กน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ตบหลังเบาๆคล้ายกำลังปลอบโยนเด็กตัวเล็กๆให้หยุดร้องไห้ พร่ำกระซิบเสียงทุ้มต่ำอันแสนหวานให้คนไร้ประสบการณ์ได้คลายความหวาดกลัว มือแกร่งดันร่างบอบบางที่ยังสั่นเทาเหมือนลูกกวางแรกเกิดลงไปนอนบนเตียง ก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าใสทั้งสองข้างอย่างลึกซึ้ง



"ฉันสัญญาว่าจะอ่อนโยน สัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ็บ สัญญาว่าจะทำให้รู้สึกดี...ตกลงนะคนเก่ง..." คุโรโกะพยักหน้ารับอย่างเลื่อนลอย รู้สึกเหมือนถูกเสน่ห์ของคนตรงหน้าครอบงำจนหมดสิ้นแรงต่อต้าน และทันทีที่นิ้วทั้งสามเคลื่อนออกไป ความรู้สึกโล่งใจชวนให้ผ่อนคลายก็แผ่ซาบซ่านอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนที่อะไรบางอย่างซึ่งใหญ่โตและแข็งขืนกว่านิ้วมากมายนักจะกดแทรกเข้ามา



ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง เงยหน้าครางสุดเสียงอย่างตื่นตระหนก เมื่อความอึดอัดและความสุขสมแล่นริ้วขึ้นมาอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งตัว แม้จะไม่เจ็บอย่างที่คิด แต่สัมผัสที่ช่วงล่างกลับเด่นชัดราวกับมีใครกำลังดึงเขาขึ้นไปบนฟ้า มือเล็กๆพยายามดันขาแข็งแรงของอีกฝ่ายให้ถอยห่างออกไปอย่างตกใจจนอาคาชิต้องรีบเข้ามากอดปลอบ



"ชู่ว...เด็กดี...ไม่เป็นไรนะ...อย่าเกร็ง...หายใจเข้าลึกๆ..." ดวงตาสีแดงสองข้างหลับลงแน่นเพื่อข่มอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองไว้พร้อมกับนับหนึ่งถึงสิบในใจ แม้ปากจะปลอบโยนอีกฝ่ายได้อย่างใจเย็นแค่ไหน แต่ใครจะรู้ว่าวินาทีที่เขาเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่ายได้สำเร็จ ทั้งความต้องการ ความร้อนรุ่ม ความกระหายที่อยากจะกระแทกกายเข้าไปให้ลึกที่สุดก็ทะลักล้นออกมาจนเกือบจะพลั้งมือรุนแรงกับเด็กคนนี้ไป ความรู้สึกของการได้เป็นคนแรกที่ได้ครอบครองเด็กน้อยผมฟ้าคนนี้มันดีเสียจนเขาไม่อยากเชื่อว่าจะลุ่มหลงและมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับใครได้ถึงขนาดนี้




ถ้าไม่ใช่เพราะเท็ตสึยะของเขายังเด็กนัก...และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ถูกสัมผัส...



เขาสาบานได้เลยว่าพรุ่งนี้เช้าเท็ตสึยะจะต้องลุกไม่ได้ไปอีกหลายวันแน่ๆ...



อาคาชิ เซย์จูโร่สูดลมหายใจลึก ก่อนจะค่อยๆขยับกายเข้าไปช้าๆอย่างอดทน ถ้าเขาหลุดเผลอปล่อยใจไปกับตัณหาราคะที่สุ่มกันเหมือนไฟอยู่ในตอนนี้เมื่อไหร่ เด็กคนนี้คงจะต้องแตกสลายไปเพราะรองรับแรงอารมณ์ของเขาไม่ไหวเป็นแน่ ท่ามกลางเสียงครางหวานที่ดังก้องอยู่อย่างต่อเนื่อง ผู้นำตระกูลอาคาชิก็ยิ่งข่มใจได้ยากขึ้นทุกขณะ จนในที่สุด เขาก็ขยับกายเข้าไปทั้งหมดได้สำเร็จ



ดวงตาสีแดงมองคนที่นอนสะอึกสะอื้นอยู่ใต้ร่างด้วยความรักใคร่ ใบหน้าหล่อเหลาแย้มรอยยิ้มอบอุ่นให้คนที่กำลังครอบครองอยู่จนเด็กชายใจเต้นแรง ความอึดอึดตรงช่วงล่างแปรเปลี่ยนไปเป็นความสุขทีละน้อย จนเมื่ออาคาชิเห็นว่าเขาเริ่มปรับตัวได้ การขยับกายเข้าออกอย่างร้อนแรงก็เริ่มต้นขึ้นทันที



คุโรโกะหลับตาแน่นก่อนจะหวีดร้องออกมาอย่างตกตื่นระคนสุขสม มือสองข้างกำผ้าปูที่นอนอย่างแรงเมื่ออีกฝ่ายเร่งจังหวะขึ้นอย่างรวดเร็วจนแทบขาดใจ ริมฝีปากร้องครวญครางขอให้หยุด แต่ร่างสูงสง่าก็เมินเฉยทุกคำอ้อนวอนไปอย่างหน้ามืดตามัว จนเมื่อความแข็งขืนสัมผัสกระแทกโดยอะไรบางอย่างด้านใน คนตัวเล็กก็กรีดร้องออกมาดังลั่นอย่างลืมตัว



"เจอแล้ว...จุดอ่อนของเท็ตสึยะ" หนุ่มผมแดงหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะกระแทกเข้าไปที่จุดนั้นซ้ำๆจนคุโรโกะร้องเสียงหลง มือสองข้างทั้งผลักไสทั้งดันไหล่แกร่งของอีกฝ่ายออกอย่างหวาดผวา แต่ความรู้สึกดีกลับเอาชนะเขาได้อย่างราบคาบจนต้องยอมแพ้ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับจังหวะรักของอีกฝ่ายที่เร่งเร้ามากขึ้นทุกขณะ จนเมื่อถึงจุดสูงสุดของห้วงอารมณ์ เขาก็ปล่อยเสียงร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นร้อนที่พุ่งพรวดเข้ามาข้างในจนดวงตาพร่ามัว



ใบหน้าคมก้มมองคนที่นอนหอบหายใจรวยรินอย่างหมดแรงอยู่บนเตียงยับยู่ยี่ด้วยสายตาที่สื่อความหมายบางอย่าง มือแกร่งจับร่างเล็กพลิกนอนคว่ำลงกับเตียงเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าลงไปกระเซ้าเย้าแหย่ด้วยน้ำเสียงเร่าร้อน



"อย่าเพิ่งหมดแรงนะเด็กน้อย...คืนนี้ยังอีกยาวนานเหลือเกิน"



"เอ๋...!?" คุโรโกะอุทาน "ม...ไม่เอานะครับ ผมยังไม่หายเหนื่อ...อ๊า!!" พูดยังไม่ทันขาดคำ อีกฝ่ายก็โถมกายเข้ามาสุดความยาวอย่างรุนแรงจนเด็กน้อยร้องลั่น ไฟราคะที่เพิ่งดับไปยังไม่ถึงสามนาทีถูกจุดให้ลุกโหมกระพือขึ้นมาใหม่ทันที



"ร้องได้ขนาดนี้คงไม่ต้องห่วงแล้วล่ะนะ" อาคาชิพูดอย่างขบขัน แต่คนที่โดนรังแกไม่เลิกกลับไม่ตลกด้วยเมื่อคนที่ทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่อยู่ข้างหลังแทรกกายเข้าออกถี่รัวจนเขาทำได้แต่ส่งเสียงร้องน่าอายออกไปอย่างหมดแรงขัดขืน ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแดงได้แต่ขยับหนีอย่างไร้ทางสู้ เมื่อคนนิสัยไม่ดีเอาแต่สัมผัสเขาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้ว่าไปอดอยากมาจากไหน



"อึ้ก!...ท...ท่านเซย์จูโร่..." คุโรโกะร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่วเมื่ออาคาชิจับยึดสะโพกของเขาไว้แน่นไม่ยอมให้หนี ก่อนจะฉุดร่างเล็กให้ขึ้นมานั่งพิงเขาเอาไว้ทั้งๆที่กายยังเชื่อมต่อกันอยู่จนหนุ่มผมแดงสามารถกดแทรกเข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้นกว่าเดิม



อาคาชิหลับตาฟังเสียงครางแว่วหวานที่เอาแต่ร้องเรียกชื่อเขาอย่างมีความสุข ยิ่งเด็กน้อยคนนี้ร้องหาเขาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้มากขึ้นเท่านั้น ภายในห้องนอนที่มืดสลัวมีเพียงแสงจันทร์ลอดเข้ามา ส่องให้เห็นร่างสูงสง่าที่ตระกองกอดคนในอ้อมแขนไว้แน่น จนแรงปรารถนาพาทั้งคู่ไปถึงจุดสุดท้ายอีกครา



มือแกร่งขยับเอนร่างกายผอมบางลงไปนอนบนเตียงเบาๆ เมื่อเห็นว่าดวงตาสีฟ้าเริ่มเลื่อนลอย ใกล้จะผล็อยหลับเต็มที ชายหนุ่มจึงก้มหน้าลงไปกระซิบบอกข้างหู



"ครั้งสุดท้ายแล้วนะ...เด็กดี"



ว่าจบ อาคาชิก็ดันกายเข้าไปในช่องทางนุ่มอีกครั้งจนคุโรโกะแทบสำลักอากาศ บทเพลงรักบทสุดท้ายถูกหนุ่มผมแดงบรรเลงด้วยความอ่อนหวานอย่างเห็นใจที่เขาใกล้หมดแรงเต็มทน สัมผัสที่เคยร้อนแรงยิ่งทวีความอบอุ่นมากขึ้นทุกขณะจนเขาอยากร้องไห้




ใบหน้าที่อยู่ด้านบนคือคนที่เขาเฝ้าตามหามาตลอด...คนที่เขาหลงรัก...คนที่เขาเชื่อว่าจะยอมปล่อยวางความแค้นทั้งปวง....




"ท่าน...เซย์จูโร่..."




คุโรโกะกระซิบเรียกชื่ออาคาชิเสียงเบาขณะที่อีกฝ่ายยังไม่หยุดขยับ




"ยอม...ปล่อยคุณแม่...แล้วใช่ไหมครับ..."




ดวงตาสีฟ้าสั่นไหว ทอประกายราวกับไพลินและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะพรรณาขณะช้อนตาขึ้นสบกับดวงตาสีแดงคู่งาม




"ยอมแลกความแค้น...กับความรักของผมแล้วใช่ไหมครับ..."






ถามด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเว้าวอนและปนเปไปกับเสียงครวญครางชวนให้หัวใจคนฟังสั่นไหว






อาคาชิจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนที่ใกล้จะร้องไห้เต็มทนอย่างไม่อาจละสายตาไปได้







ใช้ความรักมาแลกกับความแค้นงั้นหรือ...ให้ตายเถอะ...



....เด็กคนนี้...ทำให้เขาแปลกใจได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเลยจริงๆ...



แถมยัง...ทลายกำแพงน้ำแข็งในหัวใจเขาไปจนหมดสิ้น



ทำให้หวั่นไหวได้ถึงขนาดนี้ ทำให้เขาต้องยอมลงให้ถึงขนาดนี้









"...ตกลง...ฉันยอมรับข้อแลกเปลี่ยนของเธอ..." อาคาชิขยับรอยยิ้มขึ้น ก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากบนหน้าผากคุโรโกะเบาๆอย่างอ่อนโยน "พรุ่งนี้...คาโอริซังจะกลับมาถึงคฤหาสน์อย่างปลอดภัย..."



"ฮึก...สัญญานะครับ..." เด็กน้อยถามด้วยใบหน้านองน้ำตาอย่างซาบซึ้ง


"ฉันสัญญา..."






"ผม...ฮึก...รัก...ท...ท่านเซย์จูโร่...."




คุโรโกะพูดเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่ออาคาชิขยับกายเข้าออกรัวเร็วจนใกล้ถึงอีกฝากฝั่งของห้วงอารมณ์อีกครั้ง จนเมื่ออาคาชิปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดเข้าไปข้างในร่างกายเล็กๆ เสียงหวานจึงหวีดร้องออกมาเป็นครั้งสุดท้าย






"รักที่สุด..."






ใบหน้าอ่อนเยาว์เหม่อมองทิวทัศน์อันพร่าเลือนตรงหน้าด้วยแววตาอันแสนลึกล้ำ ขยับปากกระซิบคำหวานออกมากับสายลม ดวงตาสีฟ้าปิดลงช้าๆ...และแล้ว...เด็กน้อยก็ผล็อยหลับไป...











**แฮ่ บทนี้ยังไม่จบนะคะ อย่าเพิ่งเลือดหมดตัวจนปิดไปก่อนน้า กลับไปอ่านบทนี้ต่อที่ลิ้งนี้ได้เลยค่ะ**






วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[Fic one shot KnB] Insomnia (AkaKuro) R18


[Fic Halloween event]
Title : Insomnia
Fandom : Kuroko no Basket
Author : Aoitori
Pairing : Akashi X Kuroko
Rate : R18
***หมายเหตุ : ค่อนข้างติดเรทเอาเรื่อง และฉากเอ็นซีในฟิคนี้น้องไม่ค่อยเต็มใจนะคะ เรียกว่าโดนล่อลวงให้คล้อยตามน่าจะถูก ใครรับไม่ได้รบกวนกดปิดค่า


...เธอเดินเดียวดายอยู่ในความฝัน...
...เธอร้องครวญครางอยู่ในวังวนของตัณหา...
...เธอมีชีวิตอยู่ในภาพลวงตา...
...และเมื่อยามที่ตื่นจากนิทรา...เธอจะมีเพียงตัวตนของผมอยู่ในห้วงคิดคำนึง...

...จนกว่าจะหลับตาลงอีกครั้ง...


"อึก...อ๊ะ...."

เด็กหนุ่มหลุดเสียงครางออกมาแผ่วเบาเมื่อรู้สึกได้ถึงมือเย็นเฉียบที่กำลังลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเขาช้าๆ กลิ่นหอมลึกลับที่ลอยอบอวลไปทั่วชวนให้ทั้งเคลิบเคลิ้มและหวาดกลัวจนตัวสั่นในเวลาเดียวกัน

"ยะ...อย่า..."

ร่างผอมบางบนเตียงร้องห้ามเสียงแหบพร่าเมื่อมือปริศนาเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกทีละชิ้นอย่างช้าๆ ผิวกายขาวนวลเริ่มรับรู้ได้ถึงอากาศหนาวเย็นที่ลอยเข้ามาปะทะเมื่อกระดุมเสื้อของชุดนอนค่อยๆถูกปลดทิ้ง พร้อมๆกับลิ้นร้อนที่เริ่มรุกล้ำมาเข้าละเลียดชิมไปทั่วร่างกายของเขาอย่างละลาบละล้วง

ภาพตรงหน้ามืดสนิทราวกับอยู่ในหลุมดำ ร่างกายหนักอึ้งขยับไม่ได้ดั่งใจ แต่กระนั้น...ทั้งสัมผัสและกลิ่นหอมชวนเสน่หาของคนตรงหน้ากลับชัดเจนราวกับอยู่ในภาพฝัน

"ม..ไม่เอา...หยุดนะ..."

มือเล็กๆทั้งสองพยายามผลักไสผู้บุกรุกยามค่ำคืนให้ถอยห่าง แต่ยิ่งขัดขืนหนีเท่าไหร่ คนที่คร่อมทับแนบชิดอยู่ด้านบนกลับยิ่งดูเหมือนจะสนุกสนานกับการกลั่นแกล้งเขามากยิ่งขึ้นเท่านั้น ฝ่ามือเย็นกระชากกางเกงนอนของเขาออกอย่างแรงจนคนที่อยู่ด้านใต้หลุดเสียงร้องออกมาอย่างตกใจ

"อ๊า...ไม่...เอาออกไป...."

เด็กหนุ่มบิดกายเร่าอย่างตกตื่นเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างล่วงล้ำเข้ามาภายในกายของเขา ดวงตาสีฟ้าพยายามกระพริบมองใบหน้าของคนที่ถือสิทธิ์เข้ามาล่วงเกินเขาอย่างหวาดกลัว แต่ยิ่งมองเห็นความมืดมิดตรงหน้าชัดมากเท่าไหร่ ประสาทสัมผัสก็ยิ่งไวมากขึ้นเท่านั้น

"ช่วยด้วย...ใครก็ได้...อุบ!" ใบหน้าอ่อนเยาว์ในความมืดส่ายไปมาอย่างหมดทางสู้ ริมฝีบางบางเริ่มร่ำร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนจะถูกอีกฝ่ายก้มลงประกบริมฝีปากลงมาปิดเสียงร้องอย่างดุดัน เรียวลิ้นตวัดดูดดุนลิ้นเล็กๆอย่างตะกละตะกลามจนเขาหายใจไม่ทัน ในขณะที่นิ้วมือเย็นเฉียบก็ยังกดแทรกเข้ามาข้างในเรื่อยๆอย่างไร้ปราณี

"อื้อ!...ฮึก...อื้อ!" ดวงตาสีฟ้าเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาเมื่อความรู้สึกเสียวซ่านที่น่ารังเกียจจากการถูกคนแปลกหน้าสัมผัสเริ่มเรียกร้องความต้องการที่มากขึ้นตามสัญชาตญาณของมนุษย์เมื่อถูกกระตุ้น

"อ๊า....อ๊ะ....เดี๋ยว...อ๊า!!!" ริมฝีปากบางเผยอครางลั่นเมื่อรู้สึกถึงความร้อนแนบแน่นที่กระแทกเข้ามาข้างในตัวเขาจนสุด แต่ก่อนจะทันได้พักหายใจ คนที่กำลังคุมเกมอยู่ด้านบนก็เริ่มขยับกายเข้าออกอย่างรวดเร็วจนเขาได้แต่ส่งเสียงครางออกมาด้วยความรู้สึกดี

"อ๊า!!!" ร่างบนเตียงร้องเสียงหลงเมื่อของเหลวร้อนจัดพุ่งพรวดเข้ามาข้างในจนเขาแทบหลอมละลาย ดวงตาสีฟ้าเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาขณะพยายามเพ่งมองคนที่เพิ่งบุกเข้ามาเสพสมกับเขาในความฝันเป็นครั้งสุดท้าย


มีเพียงดวงตาคมสีแดงและสีทองสว่างที่มองจ้องตอบเขากลับมาในความมืดเท่านั้น
.....ก่อนที่เขาจะพล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน....


***


"โย่ คุโรโกะ เป็นอะไรฟ่ะ ทำหน้าเหมือนคนไม่ได้นอน" เจ้าของผมสีแดงเพลิงเอ่ยทักอย่างแปลกใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่าที่เพิ่งเดินมาเจอกันหน้าโรงเรียนในสภาพโทรมคล้ายคนอดนอน
"อรุณสวัสดิ์ครับคากามิคุง....พอดีเมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยพอน่ะครับ" คุโรโกะ เท็ตสึยะ นักเรียนมอปลายปีหนึ่งตอบเสียงงัวเงียขณะอ้าปากหาวไปหนึ่งที
"ยังไม่ชินกับหอพักใหม่ล่ะสิ...พอต้องมานอนคนเดียว ห่างบ้านเข้าบ้านหน่อยก็เลยเป็น Homesick สินะคุโรโกะ" เด็กหนุ่มข้างกายเอ่ยแซว
"ไม่ใช่สักหน่อยครับ เมื่อคืนผมฝันแปลกๆต่างหาก พอสะดุ้งตื่นก็เลยนอนไม่หลับไปจนเช้าเลย" คุโรโกะถอนหายใจเบาๆ
"เห...คนอย่างนายนี่ก็มีฝันร้ายกับเขาด้วยเรอะ...ฝันว่าอะไรน่ะ เล่าให้ฟังมั่งเดะ" คากามิฉีกยิ้มขณะยื่นมือเข้าไปจะสัมผัสเส้นผมสีฟ้าเล่นเหมือนอย่างที่ทำเป็นประจำ
เฮือก!
"อย่ามาจับผมนะครับ!" เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับปัดมือของอีกฝ่ายทิ้งไปอย่างแรงจนคู่หูร่างสูงกระพริบตาปริบๆ
"ป...เป็นอะไรของนายน่ะ" คากามิถามอย่างหวาดๆเมื่อรู้สึกว่าเช้านี้คุโรโกะดูแปลกไปจนชักจะน่ากลัวอย่างไรชอบกล
"ขอโทษนะครับ...ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอตัวไปห้องน้ำก่อน..." คนตัวเล็กกว่าตัดบท พร้อมกับหันหน้าหลบดวงตาสีแดงของเพื่อนรักอย่างรู้สึกผิด ขาเล็กๆวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเมื่อรู้สึกว่าวันนี้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลย

ทุกสิ่งทุกอย่างในโรงเรียนแลดูน่ากลัวไปหมด...ไม่เว้นแม้แต่ฝ่ามือที่เคยอบอุ่นที่สุดของคากามิคุง
...โดยเฉพาะ...

เมื่อภาพความฝันอันน่ากลัวเมื่อคืนยังคงตามมาหลอกหลอนเขาอยู่ทุกชั่วขณะจิต...

ซ่า......

คุโรโกะเอามือกวักน้ำในอ้างขึ้นมาล้างหน้าอย่างอ่อนเพลีย หลังจากไม่ได้นอนติดต่อการมาหลายชั่วโมง ความง่วงก็เริ่มบุกเข้ามาจู่โจมจนสติของเขาพร่าเลือนลงไปทุกที เด็กหนุ่มสะบัดหัวไล่หยดน้ำที่เกาะอยู่ออกไป ก่อนจะตัดสินใจรีบเดินกลับไปยังห้องเรียนของตัวเองเพื่องีบหลับเอาแรงก่อนจะเริ่มชั่วโมงเรียนแรก
ตุ้บ!
"โอ๊ย" เจ้าของเส้นผมสีฟ้าร้องเบาๆเมื่อเดินชนเข้ากับร่างสูงสง่าของใครบางคนที่หน้าห้องน้ำอย่างจังจนเขาล้มลงก้นกระแทกพื้น
"ขอโทษนะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?" น้ำเสียงทุ้มนุ่มฟังอ่อนโยนดังอยู่เหนือหัวของคุโรโกะอย่างเป็นห่วง พร้อมๆกับมือเรียวที่ยื่นลงมาช่วยดึงเขากลับขึ้นไปยืน
"ข...ขอบคุณครับ..." คุโรโกะเอื้อมมือไปสัมผัสกับฝ่ามือเย็นเฉียบของคนที่เขาเพิ่งเดินชนไปหมาดๆ ร่างเล็กสะดุ้งเบาๆเมื่อรู้สึกเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าช็อตขณะจับมือกับเด็กหนุ่มผมแดงตรงหน้า ดวงตาสีฟ้าลอบมองตาคมเหมือนเหยี่ยวสีแดงทั้งสองข้างและใบหน้าคมคายที่กำลังส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้เขาอย่างพิจารณา
"อยู่ห้องไหนเหรอ ให้ฉันเดินไปส่งไหม?"
"ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้ ขอบคุณแล้วก็ขอโทษด้วยนะครับสำหรับเรื่องเมื่อกี๊" เด็กหนุ่มผมฟ้าตอบอ้อมแอ้ม
"ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากหรอก ว่าแต่นายชื่ออะไรงั้นเหรอ"
"คุโรโกะ เท็ตสึยะครับ แล้วคุณ..."
"อาคาชิ เซย์จูโร่" อีกฝ่ายตอบเรียบๆพร้อมกับยกยิ้มขึ้นน้อยๆให้เขาอย่างใจดี "ฉันต้องไปแล้วล่ะ ไว้พบกันใหม่นะคุโรโกะคุง..." เจ้าของเส้นผมสีแดงกล่าวอำลา

เฮือก...!!

คุโรโกะขนลุกซู่เมื่อวินาทีที่อาคาชิเดินผ่านร่างของเขาไป กลิ่นหอมลึกลับอันน่าหลงใหลที่เขาจำได้ฝังใจจากความฝันอันน่ากลัวเมื่อคืนก็ลอยอบอวลไปทั่วอีกครั้งจนเขาตัวสั่นระริกอย่างห้ามไม่อยู่

อะไรบางอย่างเรียกให้ดวงตาสีฟ้าหันไปกลับมองร่างของอาคาชิที่เดินจากไปแล้วอีกครั้ง แผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่กำลังเดินห่างออกไปด้วยท่วงท่าสง่างามทำให้หัวใจของคุโรโกะเต้นรัว สัญชาตญาณบางอย่างในจิตใต้สำนึกร่ำร้องบอกถึงอันตรายที่คุ้นเคยเหมือนกับที่เขาพบเจอในความฝัน...

...หรือว่าคนที่เห็นในความฝันจะเป็นผู้ชายคนนั้น...
...ไม่หรอก...เป็นไปไม่ได้....
...เรื่องเมื่อคืนมันคงเป็นแค่ฝันร้ายจริงๆนั่นแหละ...

***

"ย...อย่านะ ไม่เอาแล้ว"
ร่างเล็กบนเตียงขืนตัวหนีเมื่อสัมผัสที่คุกคามจากคนแปลกหน้ากลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับยิ่งรุนแรงขึ้นกว่าเมื่อคืนมากมายนัก

"อ๊า!!...เจ็บ...ฮึก...ผมเจ็บ..." คุโรโกะร้องไห้เบาๆเมื่ออีกฝ่ายแทรกกายเข้ามาทีเดียวจนสุดอีกครั้ง

"ไม่เอา...หยุดที.....อ๊าาา"

"อ๊า!!....อ๊า"

"ฮึก...ได้โปรด....เข้ามาให้ลึกกว่านี้....."

"...................."

***

"นี่นายฝันร้ายอีกแล้วเรอะ!" เพื่อนร่วมชั้นผมแดงเพลิงร้องทักเสียงหลงอย่างตกใจที่เห็นคู่หูตัวเล็กในสภาพขอบตาดำคล้ำราวกับคนอดนอนเป็นวันที่สอง
"ครับ....." หนุ่มผมฟ้าตอบเสียงแผ่วอย่างเหนื่อยล้า
"อะไรของนายนักหนาเนี่ยคุโรโกะ อย่าคิดมากเลยน่า ฝันร้ายก็เป็นเรื่องดีจริงไหมล่ะ เพราะมันเป็นแค่ความฝันไง ความฝันก็คือความฝัน ไม่มีทางเป็นจริงขึ้นมาได้หรอก นายน่าจะขอบคุณมันด้วยซ้ำนะที่มันเป็นแค่ความฝันน่ะ..." คากามิพยายามพูดให้กำลังใจอย่างเป็นห่วง เขาไม่เคยเห็นคนเข้มแข็งหัวดื้อและไม่เคยยอมแพ้อะไรอย่างคุโรโกะเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
"มันก็ใช่อยู่หรอกครับ...." คุโรโกะเถียงไม่ออก ในเมื่อเขาเองก็ไม่กล้าเล่าให้คู่สนทนาฟังเช่นกันว่ากำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบไหนอยู่ อีกฝ่ายถึงได้เห็นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยไปเสียได้

เขาควรจะดีใจสินะที่ตื่นมาแล้วพบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่ฝันร้าย...แต่ทำไมยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่...ความฝันที่น่าหวาดหวั่นนั้นกลับยิ่งเหมือนจริงและยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกที...
และที่น่ากลัวที่สุด...ก็คือใจของเขาเอง...ที่เริ่มจะหวั่นไหวไปกับท่วงทำนองและรสชาติแห่งความสุขสมที่ได้รับจากบุรุษปริศนาในความฝัน...


กำลังเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่นะ...

"ผมโดดคาบบ่ายนะครับ เจอกันพรุ่งนี้ครับคากามิคุง" คุโรโกะพูดตัดบทเรียบๆ ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกจากห้องเรียนไปทันทีโดยไม่สนใจฟังเสียงร้องเรียกของเพื่อนสนิทที่ดังแว่วอยู่ด้านหลังเลยแม้แต่น้อย



ห้องสมุด


...อาการนอนไม่หลับ หรือ Insomnia เป็นความผิดปกติของการนอนหลับที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้นานเท่าที่ร่างกายต้องการ อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางสมองหรือปัจจัยแวดล้อมบางอย่างที่ส่งผลให้เกิดการรบกวนเวลานอนหลับ...

...มีวิธีรักษาหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น การดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ หรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มกระตุ้นสมอง แต่โดยพื้นฐานแล้วจะต้องทำการค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการนอนไม่หลับเสียก่อนจึงจะแก้ได้อย่างตรงจุด...


"...เฮ้อ..." คุโรโกะอ้าปากหาวขณะพลิกหน้าหนังสือไปด้วย หลังจากอ่านหนังสือทางการแพทย์เกี่ยวการนอนหลับและสมองมานานเกือบสองชั่วโมงแต่เขาก็ยังหาคำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นตัวเองไม่ได้เสียที ดวงตาสีฟ้าจึงหันไปสนใจหนังสือเล่มอื่นบนชั้นแทน

"โรคเกี่ยวกับสมอง...เมนูอาหารสุขภาพบำรุงสมอง...ไขปัญหาอาการนอนกรนตอนกลางคืน...เฮ้อ..." เด็กหนุ่มผมฟ้าถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวังเมื่อพบแต่หนังสือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ก็หนังสือที่ไม่ได้ช่วยให้ความกระจ่างกับเขาเลยอยู่เต็มไปหมด ก่อนที่ร่างเล็กจะไปสะดุดตาเข้ากับชั้นหนังสือที่อยู่ห่างออกไปสองชั้นโดยบังเอิญ


หมวดเวทย์มนต์และไสยศาสตร์...

ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้คุโรโกะลองเดินไปดูด้วยความสนใจ แต่ดูเหมือนว่าหนังสือบางเล่มในชั้นนี้จะมีคำตอบที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาปะปนอยู่ด้วยอย่างไม่น่าเชื่อ

"ปีศาจแฝงฝัน..." เด็กหนุ่มผมฟ้าพึมพำชื่อหนังสือที่เจอบนชั้นออกมาอย่างฉงนใจ มือเล็กๆหยิบหนังสือออกมาดูอย่างไม่ลังเลเมื่อรู้สึกว่าเหตุการณ์น่ากลัวที่เขาประสบอยู่ทุกคืนจนเริ่มมีอาการนอนไม่หลับตอนกลางคืนนั้นชักจะลึกลับเกินกว่าที่วิทยาศาสตร์จะอธิบายได้เข้าไปทุกที


อินคิวบัส...หรือปีศาจแฝงฝัน เป็นปีศาจเพศผู้ซึ่งมักจะแฝงกายเข้ามาในความฝันของเหยื่อที่กำลังหลับใหล แล้วจึงล่อลวงสะกดจิตให้เหยื่อร่วมหลับนอนด้วยเพื่อดูดพลังชีวิตหรือจนกว่าเหยื่อจะมีบุตรด้วยกัน อินคิวบัสมีรูปร่างเป็นชายหนุ่มรูปงาม และจะออกล่าเหยื่อ (ซึ่งมักจะเป็นหญิงสาวสวยหรือพวกแม่ชี) ในเวลากลางคืน นอกจากนั้นยังมีพลังที่ทำให้เหยื่อที่รู้สึกตัวไม่สามารถขัดขืนได้อีกด้วย หากร่วมเสพสมกับอินคิวบัสบ่อยครั้งจะส่งผลให้เหยื่อมีสุขภาพย่ำแย่ลงและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้...


เด็กหนุ่มผมฟ้ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเหตุการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่นี้ช่างคล้ายคลึงกับการล่าเหยื่อของปีศาจตนนี้เหลือเกิน

แต่ปีศาจแบบนี้จะไปมีจริงได้ยังไงกัน...

"แอบโดดเรียนงั้นเหรอ?" คุโรโกะสะดุ้งสุดตัวจนเผลอปล่อยหนังสือในมือตกลงไปบนพื้นหลังจากได้ยินเสียงทุ้มที่กระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหู ใบหน้าขาวนวลที่เต็มไปด้วยริ้วรอยอย่างคนอดนอนค่อยๆหันไปมองเด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนแนบชิดอยู่ข้างหลัง

"อ..อาคาชิคุง..."
"น่าแปลกใจจังเลยนะที่เห็นนายโดดเรียนแบบนี้ ปกติเข้าเรียนไม่เคยขาดเลยนี่" เจ้าของเส้นผมสีแดงสวยพูดหยอกขณะขยับรอยยิ้มให้คู่สนทนาเล็กน้อยอย่างมีมารยาท
"คุณรู้ได้ยังไงครับว่าผมไม่เคยขาดเรียน..." ร่างเล็กหันหน้าหนีอาคาชิอย่างลำบากใจเมื่อรู้สึกว่าอะไรบางอย่างในตัวผู้ชายตรงหน้าช่างคล้ายคลึงกับปีศาจในความฝันของเขาเสียจนเขารู้สึกไม่ไว้ใจอีกฝ่ายมากเท่าใดนัก
"ฉันเป็นประธานนักเรียนฉันก็ต้องรู้สิว่านักเรียนคนไหนขาดเรียนกี่ครั้งบ้าง เอาเป็นว่าขอโทษที่ทำให้ตกใจก็แล้วกันนะ" อาคาชิพูดยิ้มๆขณะก้มลงเก็บหนังสือที่เขาทำตกขึ้นมาให้ "อ่านหนังสือแบบนี้ด้วยเหรอ? ชอบเรื่องลี้ลับหรือยังไง?" เด็กหนุ่มเจ้าของตำแหน่งประธานนักเรียนถามอย่างสนใจเมื่อเห็นหน้าปกและชื่อหนังสือที่คุโรโกะเพิ่งทำตก
"เปล่าหรอกครับ ผมแค่มีเรื่องอยากรู้นิดหน่อย" คุโรโกะรีบดึงหนังสือกลับมากอดไว้แน่นทันที
"...เชื่อเรื่องภูติผีปีศาจหรือเปล่า...คุโรโกะคุง..." คำถามแปลกๆที่จู่ๆก็ถูกส่งมาทำเอาเจ้าของเรือนผมสีฟ้าถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
"............."
"..................."
"แล้วมีเหตุผลอะไรให้ไม่เชื่อล่ะครับ...." ร่างเล็กตัดสินใจตอบแบบลองเชิงอีกฝ่ายไปเบาๆหลังจากเงียบอยู่นาน
"หึ..." อาคาชิหัวเราะในลำคอเล็กน้อย "นั่นสินะ แต่จนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง ฉันก็ไม่เชื่อหรอกนะว่าปีศาจจะมีอยู่จริง..."


แล้วจะบอกว่าที่โดนทำแบบนี้อยู่ทุกวันไม่ใช่ฝีมือของปีศาจหรือยังไงกันครับ?

คุโรโกะเถียงคำพูดอีกฝ่ายอยู่ในใจ ก่อนจะก้มหัวลาอาคาชิอย่างรีบร้อน
"ผมขอโทษที่โดดเรียนนะครับ จะกลับไปห้องเรียนเดี๋ยวนี้แหละ ขอตัวนะครับ"

"ปีศาจน่ะไม่มีอยู่จริงหรอกนะคุโรโกะคุง...."

คำพูดทิ้งท้ายอันเป็นปริศนาที่ดังแว่วอยู่ข้างหลังยิ่งชวนให้ท้องไส้ของคนที่กำลังเร่งฝีเท้ากลับห้องเรียนปั่นป่วนมากยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะอะไรอาคาชิคุงถึงต้องพูดเรื่องปีศาจขึ้นมาด้วย หรือว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับอินคิวบัสที่มาหลอกหลอนเขาอยู่ทุกคืนจริงๆ แต่อาคาชิคุงก็เป็นมนุษย์นี่นา หรือว่าปีศาจแฝงฝันอะไรนั่นจะเป็นแค่เรื่องหลอกเด็กอย่างที่เขาว่าจริงๆ


แต่...
ถ้าเป็นมนุษย์จริงๆ...จะมองเห็นและจู่โจมเขาในความมืดได้อย่างไร...
ถ้าเป็นมนุษย์จริงๆ...ทำไมเขาจะขัดขืนอีกฝ่ายด้วยแรงของผู้ชายไม่ได้...
ถ้าเป็นมนุษย์จริงๆ...จะลักลอบเข้ามาในห้องนอนของเขาโดยไม่เหลือร่องรอยอะไรเลยสักอย่างได้อย่างไร...

....ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนบ่งบอกถึงการกระทำอันชั่วร้ายของปีศาจแฝงฝันนาม "อินคิวบัส" ทั้งสิ้น....


***

"อ๊า....อ๊ะ...อย่า..." คุโรโกะหอบครางด้วยความหวาดกลัวเมื่อนิ้วเรียวยาวของคนที่บุกรุกเข้ามาในความฝันชำแหรกแทรกเข้ามาข้างในกายเขาอีกครั้ง
"ฮึก...ไม่เอาตรงนั้น...ไม่นะ..." ร่างเล็กร้องไม่เป็นภาษาอย่างเสียวซ่านเมื่อนิ้วร้อนของอีกฝ่ายกระแทกไปโดนจุดไวสัมผัสเข้าอย่างจังจนเขาดิ้นพล่าน
"อ๊า!! ได้โปรด...ไม่ไหวแล้ว..." เส้นผมสีฟ้าสวยกระจายเต็มหมอนพร้อมกับคราบน้ำตาเมื่อจู่ๆคนด้านบนที่ยังกระหน่ำแทรกนิ้วเพิ่มเข้ามาไม่หยุดเร่งจังหวะให้รวดเร็วและรุนแรงมากขึ้นทุกทีจนใบหน้าอ่อนเยาว์แดงก่ำ มวลความอึดอัดและความรู้สึกดีที่อัดแน่นอยู่ข้างในใกล้จะระเบิดออกมาเต็มที ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดชะงักไป...
"ฮึก..." คุโรโกะสะอื้นเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็หยุดมืออย่างกระทันหัน ดวงตาสีฟ้ามองสบกับดวงตาคมสีแดงข้างและสีทองข้างที่ก้มมองเขาอย่างสนุกสนานราวกับกำลังพอใจที่ได้รังแกเขาไม่ให้ได้รับการปลดปล่อยเสียที
เด็กหนุ่มหอบหายใจถี่ตัวสั่นระริกด้วยความกระสันเมื่อความรู้สึกอึดอัดยังคงไม่จางหาย นิ้วเรียวทั้งสามของอีกฝ่ายยังคงคั่งค้างอยู่ข้างใน เมื่อพยายามขยับกายหนี นิ้วทั้งสามก็ยิ่งเสียดสีเข้ากับผนังด้านในจนเขาต้องกำผ้าปูที่นอนแน่นด้วยความทรมาณ
"อึดอัดใช่ไหม..." น้ำเสียงเย็นเยียบที่ฟังดูคุ้นหูอย่างน่าประหลาดกระซิบหยอกเย้าอยู่ข้างหูราวกับเสียงปีศาจจนคนฟังสั่นสะท้านด้วยความกลัว
"อยากให้ผมปลดปล่อยนายหรือเปล่า?" คนด้านบนยังคงถามย้ำไปย้ำมาอย่างเย้าแหย่ พร้อมกับขยับนิ้วช้าๆจนคุโรโกะน้ำตาไหลอาบแก้ม ตัณหาและราคะที่ถูกอีกฝ่ายล่อลวงให้ผลิบานขึ้นทีละน้อยทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจพยักหน้าตอบกลับไปอย่างยอมแพ้
"ขอร้องผมสิ...ขอร้องให้ผมเข้าไปข้างใน..." ไม่รู้ว่าอุปทานไปเองหรือเปล่า แต่คุโรโกะรู้สึกราวกับว่ากำลังเห็นอีกฝ่ายแสยะยิ้มร้ายอยู่ในความมืด พร้อมๆกับลมหายใจอุ่นๆที่เริ่มเข้ามาคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอจนหัวใจเต้นแรง
"ช่วย...เข้ามาข้างใน...ผม...ฮึก...ได้โปรด...." ร่างเล็กขยับปากอ้อนวอนเสียงแผ่วอย่างหมดทางสู้ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างพอใจจากคนด้านบน นิ้วทั้งสามถูกถอนออกไปอย่างรวดเร็วจนเขาตั้งตัวแทบไม่ทัน
"อ๊า!!!" ทันทีที่นิ้วถูกถอดออก สิ่งที่ใหญ่โตกว่าก็กระแทกสวนกลับเข้ามาทันทีจนคุโรโกะหวีดร้องเสียงหลง ก่อนจะรู้สึกได้ถึงเรี่ยวแรงมหาศาลที่เริ่มถาโถมเข้ามาจนได้ยินเสียงเตียงขยับสั่นไหว

จังหวะของอีกฝ่ายยิ่งรุนแรงขึ้นทุกทีจนเขาแทบร้องไห้ ทั้งความขมขื่นและความสุขสมตีรวนกันอยู่ในอกซ้ายจนเขาแทบบ้า


คืนแล้วคืนเล่าที่เขาที่ถูกฝ่ามือปริศนาอันเย็นเฉียบสัมผัส....
คืนแล้วคืนเล่าที่อีกฝ่ายยัดเหยียดความใหญ่โตเข้ามาข้างในจนเขาแทบขาดใจ...
คืนแล้วคืนเล่า...ที่เขาเริ่มหลงใหลและมีความสุขไปกับกลิ่มหอมชวนเสน่หา ที่มีแต่จะยิ่งฉุดเขาลงสู่ห้วงแห่งความปรารถนาลึกลงเรื่อยๆ...


เฮือก!!

ร่างเล็กสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝันอันยาวนาน ใบหน้าขาวใต้แสงจันทร์เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เด็กหนุ่มยังคงหอบใจหายถี่รัวราวกับว่าเหตุการณ์ในความฝันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้จริงๆ

คุโรโกะกอดร่างของตัวเองที่กำลังสั่นเทาอย่างหวาดกลัว หลังจากเดินไปเช็คหน้าต่างและประตูทุกบานในห้องเขาก็พบว่าพบว่ามันยังคงล็อคอยู่เหมือนเดิม ไม่มีใครแอบอยู่ในห้อง ไม่มีใครบุกเข้ามา ไม่มีร่องรอยอะไรเหลืออยู่เลย...นอกจากคราบน้ำสีขาวที่ยังคงเปรอะเปื้อนอยู่บนเตียงอย่างน่าอดสูเท่านั้น....


***


หลังจากคืนนั้นคุโรโกะก็ไม่กล้าหลับตานอนในยามค่ำคืนอีกเลย ทุกๆครั้งที่หัวถึงหมอน ภาพความฝันอันน่ากลัว และตัวเขาเองที่ร้องขอการเติมเต็มจากอีกฝ่ายจะฉายวนกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไม่อาจข่มตาลงหลับได้
ยิ่งนานวันเข้า อาการนอนไม่หลับตอนกลางคืนของเขาก็ยิ่งหนักข้อขึ้น จนทั้งสุขภาพกายและใจของเขายิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ สุดท้ายคุโรโกะจึงต้องมาอาศัยนอนพักผ่อนเอาที่โรงเรียนแทน และอีกไม่นานปัญหานี้ก็คงจะส่งผลกระทบถึงการเรียนและชมรมของเขาในไม่ช้าเป็นแน่...

และยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่...หัวใจที่อ่อนแอของเขาก็ยิ่งปักใจเชื่อในความจริงที่ว่าเขากำลังถูกสิ่งลึกลับบางอย่างตามคุกคามอยู่มากขึ้นเท่านั้น


ห้องชมรมไสยศาสตร์

"มิโดริมะคุงครับ...ผมมีเรื่องอยากจะถามหน่อย..."
"เฮ้ย!!" เจ้าของเส้นผมสีเขียวเข้มและแว่นตากรอบหนาบนใบหนาสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆก็หันมาเจอกับคนตัวเล็กกว่าในสภาพโทรมจนน่ากลัว "คุ...คุโรโกะเองหรอกเหรอ นี่นายไปทำบ้าอะไรมาหา ทำไมสภาพถึงเป็นแบบนี้"
"คือผม...มีเรื่องไม่ค่อยสบายใจน่ะครับ คิดว่าคุณคงให้คำปรึกษาได้..." คุโรโกะสบตากับประธานชมรมเรื่องลี้ลับและไสยศาสตร์ของโรงเรียนอย่างอ้อนวอนขอร้อง
"ไหนลองว่ามาสิ..." มิโดริมะพยักหน้ารับอย่างเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายท่าทางจะเจอเรื่องหนักมาพอควรเลยทีเดียวถึงได้มีสภาพย่ำแย่ถึงเพียงนี้...

***

"วิธีกำจัดอินคิวบัสงั้นเหรอ?" ประธานชมรมไสยศาสตร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อได้ฟังคำถามที่อีกฝ่ายอยากรู้
"ครับ พอจะมีวิธีทำให้ปีศาจตนนี้หายไปจากความฝันได้บ้างไหมครับ?"
"ฉันจะไม่ถามนายหรอกนะว่าจะถามเรื่องนี้ไปทำไม แต่ก็คิดถูกแล้วล่ะนะที่มาถามเรื่องนี้กับฉัน เพราะฉันน่ะเป็นคนที่เชี่ยวชาญเรื่องโชคลาภและเรื่องลี้ลับมากที่สุดในโรงเรียนยังไงล่ะ" มิโดริมะถือโอกาสโฆษณาความรอบรู้ของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเริ่มพูดต่อ "ปีศาจตนนี้ไม่มีวิธีกำจัดหรอกนะ แต่ถ้าเป็นวิธีที่จะหลุดจากความฝันที่อินคิวบัสสร้างล่ะก็ยังพอมีวิธีอยู่"
คุโรโกะกำมือแน่นขณะตั้งใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูด
"ปกติถ้าอยู่ในสภาวะหลับลึกแล้วถูกอินคิวบัสควบคุมประสาทสัมผัสทั้งหมดไปแล้วก็จะไม่สามารถรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากความฝันได้ ดังนั้นอินคิวบัสถึงได้เลือกล่าเหยื่อเฉพาะยามหลับใหลเท่านั้น แต่ถ้าเรารู้สึกตัวตื่นอยู่ก็จะเป็นการยากที่จะเข้ามาควบคุมความฝันได้"
"หมายความว่ายังไงเหรอครับ?" ร่างเล็กขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
"ก็หมายความว่าถ้ารู้ตัวว่ากำลังถูกอินคิวบัสจ้องเล่นงาน เราก็ต้องไล่มันไปให้ได้ในขณะที่เรายังมีสติอยู่น่ะสิ ซึ่งถ้าถามฉัน ฉันก็คงจะแนะนำให้แกล้งทำเป็นเหมือนว่ากำลังหลับลึกอยู่ รอจนกระทั่งมันโผล่ออกมา จากนั้นก็ใช้ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่มีสัญลักษณ์ของพระเยซูอยู่กับน้ำมนต์ที่บาทหลวงปลุกเสกมาไล่มันไป แล้วมันก็จะได้หวาดกลัวจนไม่กล้ากลับมาเข้าฝันอีก"
"อย่างนี้นี่เอง..." คุโรโกะขยับรอยยิ้มเล็กน้อยอย่างมีความหวัง "แล้วมิโดริมะคุงมีไม้กางเขนกับน้ำมนต์นั่นหรือเปล่าครับ?"
"มีสิ นายจะเอาไปใช้เหรอ?"
"ครับ ผมจะขอยืมหน่อย"
"ได้สิ ช่วงนี้ฉันให้ยืมใช้ไปก่อนก็ได้ จะเอาไปใช้เองหรือจะเอาไปให้ใครใช้ก็ตามสบายแล้วกัน"
"ครับ ขอบคุณมากๆนะครับ" ร่างเล็กผมฟ้ายิ้มน้อยๆก่อนจะรับถุงใส่ของมาจากหนุ่มผมเขียว
"เดี๋ยวก่อนคุโรโกะ" เด็กหนุ่มชะงักเมื่อถูกอีกฝ่ายเรียกไว้ขณะที่กำลังจะเดินออกไปจากห้อง
"มีอะไรเหรอครับ?"
"เอ้านี่..." มิโดริมะขยับแว่นพร้อมกับวางไฟฉายกระบอกลงบนมือคุโรโกะ "ลัคกี้ไอเท็มของราศีกุมภ์ พกติดตัวไว้ ดูท่าว่าช่วงนี้นายจะดวงไม่ค่อยดีนะ"
"ขอบคุณมากนะครับมิโดริมะคุง" คุโรโกะก้มหัวขอบคุณมิโดริมะอย่างซาบซึ้ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องพร้อมกับสีหน้าที่ผ่อนคลายลง ทิ้งให้คนที่ยังนั่งอยู่ในห้องชมรมตีสีหน้าเครียดอยู่บนเก้าอี้คนเดียว

มิโดริมะมองตามแผ่นหลังเล็กๆของคุโรโกะอยู่นานจนลับสายตา อะไรบางอย่างรอบตัวคุโรโกะในวันนี้ชวนให้รู้สึกไม่สบายใจจนน่าหงุดหงิด

แถมวันนี้ราศีกุมภ์ยังอยู่อันดับสุดท้ายเสียด้วย....

***

คุโรโกะตรวจดูอุปกรณ์ที่เขาจะใช้ในการไล่ปีศาจแฝงฝันในคืนนี้อีกเป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองไม้กางเขนอันยักษ์ที่ซุกไว้ใต้หมอน กับขวดน้ำมนต์ที่พร้อมเปิดใช้ทุกเมื่อในกระเป๋าเสื้อของชุดนอนอย่างอุ่นใจ
"จริงสิ ลัคกี้ไอเท็มจากมิโดริมะคุง..." เด็กหนุ่มผมฟ้าพึมพำขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรไป ก่อนจะเดินไปหยิบไฟฉายมาวางไว้ข้างๆหมอน พอมีสิ่งของศักดิ์สิทธิ์และของนำโชคอยู่รายล้อมรอบตัวเขาแบบนี้มันก็ทำให้ร่างเล็กสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย และพร้อมที่จะสู้กับสิ่งลึกลับทุกอย่างที่จะปรากฏกายในคืนนี้อย่างมั่นใจ

ทางเดียว...ที่เขาจะหายจากโรคนอนไม่หลับที่เป็นเรื้อรังมานานเกือบอาทิตย์นี่เสียที...
วิธีเดียว...ที่เขาจะดึงเอาฝันดีและยามค่ำคืนอันสงบสุขกลับมาอีกครั้ง...


คุโรโกะกำหมัดแน่นอย่างหมายมั่นปั้นมือ ก่อนจะเอื้อมมือไปดับโคมไฟ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

กึก...กึก...กึก....

เสียงฝีเท้าอันเงียบเชียบของใครบางคนที่กำลังค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ห้องนอนของเขาเรียกให้คุโรโกะสะดุ้งเบาๆอย่างตกใจ หลังจากแกล้งทำเป็นว่ากำลังหลับสนิทมาได้สักพักจนใกล้จะเคลิ้มหลับไปจริงๆ เด็กหนุ่มผมฟ้าก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังเบาๆอยู่หน้าห้องเขา

ถ้าเป็นในเวลานอนปกติของเขาคงจะไม่มีทางรู้สึกตัวแน่ๆ...
แต่คืนนี้แหละ...ที่เขาจะต้องไล่ปีศาจร้ายที่บุกรุกเข้ามาไปให้ได้...

คุโรโกะเงี่ยหูฟัง ก่อนจะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงกลอนประตูห้องที่ล็อคไว้อย่างดีถูกไขออกเบาๆ ในจินตนาการของเขา ปีศาจที่ร้ายกาจอย่างอินคิวบัสน่าจะบินทะลุประตูเข้ามาได้เลยเสียด้วยซ้ำ

แอ๊ด....คลิ้ก!

เสียงประตูห้องของเขาที่ถูกแง้มเปิดออกดังขึ้นแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆปิดลงพร้อมกับเสียงลงกลอนล็อคประตู กลิ่นหอมประหลาดลึกลับที่เขาคุ้นเคยเริ่มลอยอบอวลไปทั่วห้องอีกครั้งจนร่างเล็กเผลอกำขวดน้ำมนต์ไว้แน่น
ผ้าห่มผืนหนาค่อยๆถูกดึงออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับร่างสูงของผู้บุกรุกที่ขยับขึ้นมาคร่อมบนตัวเขาทันที
"ถอยออกไปนะ!!" คุโรโกะลืมตาโพล่งร้องเสียงดัง ขณะบิดฝาขวดน้ำมนต์เปิดออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะสาดเข้าไปจนเต็มหน้าของอีกฝ่าย

ซ่า...!!

"อุ๊บ" ผู้บุกรุกชะงักไปเล็กน้อยเมื่อมวลน้ำจำนวนมากกระแทกเข้ามาเต็มใบหน้าจนแทบสำลัก ก่อนจะหันไปเจอกับไม้กางเขนอันใหญ่ที่คนตัวเล็กกว่าเตรียมเอามาฟาดหัวเขาอย่างไม่ลังเล
"ออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้!!" คุโรโกะเงื้อมือเตรียมจะใช้ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ตีลงไปบนหน้าของอินคิวบัส แต่ร่างสูงกว่ากลับพุ่งมาจับยึดข้อมือของเขาไว้ได้ก่อน
"ปล่อยนะ!! ปละ...อื้อ!!" ยังไม่ทันได้ร้องโวยวายไปมากกว่านี้ ริมฝีปากเย็นเชียบของอีกฝ่ายก็ประกบลงมาบดเบียดกับริมฝีปากบางของคุโรโกะจนแนบแน่น จนร่างเล็กได้แต่กรีดร้องอยู่ข้างในอย่างไม่เข้าใจ



ทำไมกันล่ะ...!!

ผมก็ทำทุกอย่างตามที่มิโดริมะคุงบอกแล้วนี่นา....!!


คุโรโกะมั่นใจมากว่าเขาไม่ได้กำลังฝันอยู่ และสติที่ครบถ้วนสมบูรณ์พร้อมต่อสู้ในวันนี้ก็ทำให้เด็กหนุ่มดิ้นแรงกว่าเดิมจนมือที่ปัดป่ายไปทั่วเตียงบังเอิญไปสัมผัสกับอะไรบางอย่างเข้า


ไฟฉายที่มิโดริมะคุงให้มา...ลัคกี้ไอเท็มของเขาในวันนี้...


ไวเท่าความคิด เมื่อไม่มีทางให้หนีนอกจากต้องสู้หลังชนฝาเท่านั้น มือเล็กๆจึงดึงไฟฉายมาไว้ในมือก่อนจะฟาดเข้าไปที่ร่างสูงในความมืดอย่างแรง
"อั่ก!" คนที่คร่อมทับเขาอยู่ด้านบนสบถเสียงขุ่น ก่อนจะชะงักถอยห่างไปเล็กน้อยเมื่อโดนกระแทกเข้าที่หัวเต็มๆ
เมื่อสบโอกาสเหมาะ คุโรโกะจึงรีบดิ้นหนีลงจากเตียงทันที แต่ด้วยความรีบร้อนนิ้วมือจึงไปกดโดนปุ่มเปิดไฟฉายเข้าโดยบังเอิญ แสงไฟสีเหลืองนวลสาดส่องไปที่บุรุษลึกลับในเงามืดจนสว่างไปทั้งห้อง...



ร่างเล็กที่กำลังล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้นแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อได้เห็นใบหน้าคมของเด็กหนุ่มผมแดงใต้แสงไฟ

"อาคาชิคุง..." คุโรโกะพึมพำเสียงแผ่ว

ทั้งความสับสน ความตื่นตระหนก และความไม่เข้าใจตีรวนกันอยู่ในอกซ้ายจนเหงื่อซึมชื้นไปทั่วทั้งใบหน้า ขาสองข้างแข็งเป็นหินจนแทบขยับไม่ได้เมื่อได้รู้ความจริงว่าคนที่เจอในโรงเรียนและคนที่เคยได้พูดคุยกันมาตลอดนั้นมิใช่มนุษย์
ร่างเล็กรีบตะเกียดตะกายคลานหนีอย่างหวาดกลัวเมื่อเห็นท่าทางคุกคามที่แฝงอยู่ในคราบของความเยือกเย็นของอาคาชิ เซย์จูโร่ที่กำลังมองตรงมายังเขาด้วยแววตาสนุกสนาน
"ผมเคยบอกแล้วไง...ว่าปีศาจน่ะไม่มีอยู่จริงหรอกนะ...เท็ตสึยะ" ทั้งคำพูดและคำเรียกชื่อเขาที่เปลี่ยนไปชวนให้หัวใจเต้นถี่รัวมากขึ้นอย่างหวาดหวั่น ดวงตาสีแดงข้างนึง สีทองข้างนึงของอีกฝ่ายจ้องลึกเข้ามาในดวงตาสีฟ้าของเขาแน่นิ่ง พร้อมๆกับร่างกายสูงสง่าที่ค่อยๆขยับเคลื่อนเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ บนศีรษะของอาคาชิมีคราบเลือดเปื้อนเปรอะอยู่เล็กน้อย
"หมายความว่ายังไง...คุณ...เป็นมนุษย์งั้นเหรอ"
"ตกใจที่คนที่ได้เข้ามาสัมผัสนายทุกคืนไม่ใช่ปีศาจ แต่เป็นผมขนาดนั้นเลยหรือ?" คนถามแสยะยิ้มน่ากลัว พร้อมกับเอื้อมมือมาลูบไล้ใบหน้าของคนที่กำลังทำหน้าสับสนเบาๆจนอีกฝ่ายขนลุกซู่ 

"ลีลาบนเตียงของผมมันชวนเคลิบเคลิ้มจนทำให้นายคิดว่ากำลังถูกอินคิวบัสล่อลวงได้เลยงั้นสินะ..."
"ถอยออกไปนะครับ!" คุโรโกะหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายก่อนจะพยายามดิ้นหนีหนักขึ้นเมื่อไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง
"คิดจะผลักไสผม...ทั้งๆที่เมื่อคืนก่อนนายก็ยังอ้อนวอนขอให้ผมเข้าไปข้างในอยู่เลยงั้นหรือ?" อาคาชิแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างถูกใจเมื่อเห็นท่าทางรังเกียจของคุโรโกะที่มีต่อคำพูดเสียดสีแดกดันของเขา
"น่าแปลกใจจังเลยนะ...ทั้งๆที่มีสายตาที่เฉียบคมและเป็นคนที่ช่างสังเกตมากขนาดนี้แท้ๆ..." ฝ่ามือเย็นเชยคางมนขึ้นมาสบตาด้วย "ไม่เคยรู้ตัวเลยสินะ...ว่าตกอยู่ในเกมของผมมานานขนาดไหนแล้ว..."


ทั้งเรื่องกุญแจหอพักของอีกฝ่ายที่เคยหายไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน...นั่นก็เป็นฝีมือของเขาเอง...เพื่อที่จะได้เข้ามาข้างในได้อย่างไร้ร่องรอย สร้างความรู้สึกเหมือนกับมีอะไรบางอย่างที่อยู่นอกเหนือการกระทำของมนุษย์บุกเข้ามาในยามราตรี
ทั้งกลิ่นกำยานและน้ำหอมปลุกเร้าอารมณ์ผสมยาชาที่เขาใช้กับอีกฝ่ายจนเคลิบเคลิ้ม ทำให้โอนอ่อนตามสัมผัสของเขาอย่างง่ายดาย ทำให้มัวเมาและลุ่มหลงในรสชาติของความสุขสมที่ได้ร่วมหลับนอนกับเขา ทำให้ไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนแม้จะยังมีสติอยู่ครบถ้วน
และดวงตาสีทองสว่างที่ตาข้างซ้าย...เนตรจักรพรรดิ์...พลังซึ่งทำให้คาดเดาการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของเหยื่อได้ ทำให้จู่โจมและกักขังเด็กหนุ่มผมฟ้าไว้ในห้วงแห่งความปรารถนาจนไม่อาจหนีไปไหนได้อีก ทำให้รู้ทันทุกการขัดขืนและการหลบหนีราวกับมีดวงตาที่มองเห็นได้ในความมืดมิด...


...เพียงเท่านี้...เขาก็สร้างภาพมายาของปีศาจอินคิวบัสขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ...



"ปีศาจในความฝันน่ะไม่มีจริงหรอกนะเท็ตสึยะ...และถึงจะมีอยู่จริงๆ...ก็คงไม่น่ากลัวเท่าปีศาจในโลกแห่งความจริงตรงหน้านายหรอกนะ..." อาคาชิ เซย์จูโร่หัวเราะเบาๆ ขณะหยิบยาสีชมพูหวานเม็ดเล็กใส่ปากตัวเอง ก่อนจะประกบจูบลงไปกับปากของอีกฝ่ายเพื่อบังคับให้ร่างเล็กกลืนมันลงไป
"อึก!! อื้อ!!....แค่กๆ" คุโรโกะดิ้นหนีพร้อมกับผลักร่างสูงสง่าออกมาอย่างตกใจ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อยาประหลาดไหลลงไปในลำคอของเขาเรียบร้อย "คุณ...คุณเอาอะไรให้ผมกินน่ะ!"
"หึ...เรามาสนุกกันจนกว่าราตรีนี้จะผ่านพ้นไปเถอะนะ...เหยื่อตัวน้อยที่น่ารักของผม..."




End



โซนเม้าท์แตก
สวัสดีค่า ผ่านฮาโลวีนมาหนึ่งวันแล้ว แต่จะลงย้อนหลังก็คงไม่เป็นไรเนอะ พอดีเมื่อคืนพิมพ์ไม่ทันค่ะ 555555
หลายคนที่ซื้อ Vanilla Horror ไปอ่านก็คงจะคุ้นหูกับชื่อปีศาจแฝงฝัน หรือไม่ก็อินคิวบัสกันดีนะคะ เพราะใน Vanilla Horror ปีศาจสาวที่ไปล่อลวงอาคาชิในความฝันก็คือ "ซัคคิวบัส" นั่นเอง
อินคิวบัส กับซัคคิวบัสเป็นปีศาจที่เป็นคู่กันค่ะ คือมีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันนั่นก็คือชอบเข้าไปล่อลวงเพศตรงข้ามในความฝันเพื่อสูบพลังชีวิต ดังนั้นฟิคนี้ก็เลยเหมือนจะเป็นฟิคต่อยอดมาจาก Vanilla Horror หน่อยๆ ฮาาาาา (เห็นท่านโดนล่อลวงไปแล้ว ก็อยากเห็นน้องครกโดนล่อลวงบ้าง กร๊ากกกก //โดนถีบลงคลอง)
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฟิคนี้ขึ้นมาได้ก็คือ "นอนไม่พอ" ค่ะ 55555555 พอดีช่วงนี้อยู่ดึกมากแทบทุกคืน เลยเขียนระบายอารมณ์มันซะเลย ก็เลยออกมาได้ชื่อฟิค Insomnia อย่างที่เห็น (Insomnia แปลว่าอาการนอนไม่หลับค่ะ)
ถามว่าอู้แต่งฟิคกินเด็กมาพิมพ์อันนี้ใช่ไหม เอ่อ...ก็ใช่ค่ะ 5555555 อย่าเพิ่งปาหม้อลงมานะคะ สำหรับฟิคกินเด็กบทหน้าเจอกันภายในวันอาทิตย์นี้แน่นอน อดใจรอกันอีกนิดนะคะ ต้องขอโทษคนที่รออ่านด้วยจริงๆ รอบนี้มาช้าไปหน่อยเพราะว่ามีหลายฉากที่ก่อนเขียนต้องทำอารมณ์ค่อนข้างนานอยู่ค่ะกว่าจะเขียนได้ (ฉากอะไรก็รู้ๆกันอยู่เนอะ //เอามือปิดหน้า) ขอเวลาบรู้ฟอีกนิดนะคะ พบกันเร็วๆนี้แน่นอน

แล้วพบกันใหม่ค่า
โทริ


ป.ล. หลังจากนี้ถ้ามีฉากอะไรที่เสี่ยงกับการลงในเด็กดีจะมาลงไว้ที่นี่หมดเลยนะคะ และถ้ามีข้อสงสัยอะไรขอให้ไปสอบถามในเพจนะคะ พอดีในเว็บเด็กดีมีกฎว่าห้ามเปิดเผยและลงรายละเอียดในการเข้าถึงเว็บที่มีฉากเอ็นซีด้วยค่ะ //กันฟิคปลิวเน้อ