Rate : NC-18
'นี่ต่างหากที่เขาเรียกว่าจูบ'
ภาพทุ่งหญ้าสีเขียวขจีท่ามกลางท้องฟ้าสีครามลอยเข้ามาในห้วงความคิดของคุโรโกะ
ความทรงจำของครั้งแรกที่ได้ลองขี่ม้า ยังไม่ติดตรึงเท่าสัมผัสแรกของริมฝีปากที่ทาบทับลงมา
เรียวปากของอีกฝ่ายบดจูบเข้ามาช้าๆ เปลี่ยนความเบาบางนุ่มนิ่มเป็นความรุ่มร้อนจนลมหายใจของเขากระตุกสั่น
ยังไม่ทันจะได้ผละหนีก็โดนรวบตัวเข้าไปกอดแน่นอย่างรู้ทัน และก่อนจะทันได้รู้สึกตัว
สัมผัสชุ่มชื้นและอุ่นร้อนก็บุกแทรกเข้ามาในปากของเขาอย่างค้นหา
เกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นเล็กๆอย่างสนุกสนานจนแทบหมดแรง
พอเห็นว่าเหยื่อตัวน้อยในอ้อมแขนสิ้นฤทธิ์ ก็ยิ่งไล่สำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความเร่าร้อนที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
เฝ้าวนเวียนรังแกให้เด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างเขาต้องส่งเสียงครางประท้วงซ้ำแล้วซ้ำแล้ว
จนเขาต้องขยำเสื้อบอกแรงๆว่าลมหายใจใกล้หมดเต็มทีแล้ว อีกฝ่ายถึงจะยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระ
หากว่าภาพความทรงจำของจูบแรกเป็นเช่นนั้น
รสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้เขาตอนนี้กลับยิ่งร้อนแรงกว่าครั้งนั้นมากมายนัก
"อือ...อือ!!...อื้อ!!"
คุโรโกะส่งเสียงประท้วงอย่างขวัญเสีย เมื่อโดนบดขยี้ริมฝีปากอย่างเร่าร้อนรุนแรงจนอุณหภูมิในกายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแม้จะเป็นในยามกลางคืนของช่วงฤดูหนาว
ถึงจะเคยจูบกันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกกลืนกินไปทั่งตัวเพียงแค่สัมผัสที่ปากได้ขนาดนี้มาก่อน
ไออุ่นจากลมหายใจที่รินรดอยู่ข้างแก้มยิ่งทวีความร้อนแข่งกับสัมผัสเปียกชื้นที่เกี่ยวพันกันยุ่งเหยิงอยู่ในริมฝีปากเล็กจนยากจะแยกออกว่าด้านไหนที่ร้อนกว่ากัน
ทั้งแนวฟัน กระพุ้งแก้ม และเพดานปากถูกไล่ดูดกลืนความหวานไปจนหมดสิ้นไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว
ดวงตาสีฟ้าสั่นไหวเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือร้อนที่ขยับปลดกระดุมเสื้อนอกของเครื่องแบบนักเรียนเขาออกไปทั้งๆที่ยังไม่ยอมคลายจูบ
ก่อนที่มันจะถูกโยนทิ้งไปให้พ้นทางอย่างไม่ไยดี
เด็กน้อยหอบหนักเมื่ออาคาชิยอมปล่อยให้เขาได้พักหายใจ
ริมฝีปากนุ่มแดงช้ำตักตวงเอาอากาศเข้าไปถี่เร็ว ก่อนจะร้องอุทานออกมาเบาๆเมื่อหนุ่มผมแดงใช้เวลาช่วงที่ปล่อยให้เขาเป็นอิสระเพียงเสี้ยววินาที
ปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนเหลือแต่กางเกง ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบอย่างหนักหน่วงอีกครั้งอย่างไม่รู้จักพอ
อาคาชิจับยึดใบหน้าอ่อนเยาว์เอาไว้แน่นเพื่อที่จะไล่เก็บกวาดทุกหยาดหยดแห่งความอ่อนนุ่มไว้ได้อย่างไม่ตกหล่น
ยิ่งสัมผัสเขาก็ยิ่งรู้สึกคล้ายกับจะเป็นบ้า จนต้องปล่อยให้ความปรารถนาที่เก็บลึกไว้มานานแสนนานล้นทะลักออกมา
กี่ครั้งแล้วที่ต้องยับยั้งชั่งใจไว้ นานแค่ไหนแล้วที่เขาต้องอดทนไม่สัมผัสเด็กคนนี้
เส้นด้ายแห่งศีลธรรมที่ฉุดรั้งเขาเอาไว้มาตลอดขาดสะบั้นลงไม่เหลือชิ้นดี
คืนที่เขาจะได้ครอบครองเด็กคนนี้...คืนที่เขาจะทำให้เท็ตสึยะเป็นของเขาคนเดียว
อาคาชิ เซย์จูโร่มองข้ามอายุสิบสามปีของคนที่กำลังร้องครางประท้วงในลำคออยู่ด้านใต้ไปอย่างเฉยเมย
ก่อนจะหันมาโถมกายกอดรัดร่างเล็กบนเตียงจนแทบไม่เหลือช่องว่าง เฝ้าวนเวียนตักตวงความสุขจากริมฝีปากเล็กไปอย่างไม่รู้เบื่อ
ก่อนจะผละออกมาให้คนที่ถูกสัมผัสได้พักหายใจอีกครั้ง พร้อมกับหันไปไล่ขบเม้มซอกคอขาวอย่างหลงใหลแทน
"ฮึก!"
คุโรโกะที่กำลังหายใจเอาอากาศเข้าไปกระตุกเกร็งเมื่อรู้สึกได้ถึงฟันแหลมคมที่ทั้งขบทั้งกัดเขาเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวจนเผลอร้องออกมาเบาๆ
เด็กชายผมฟ้ามองค้อนคนที่ทำเหมือนเขาเป็นขนมไว้เคี้ยวเล่นอย่างงอนๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพรุ่งนี้มันจะต้องเป็นรอยแดงไว้ให้เขาอับอายใครต่อใครที่ถามถึงที่มาของมันอย่างแน่นอนที่สุด
ในขณะที่คนเจ้าเล่ห์หวังจะตีตราเด็กน้อยไว้เป็นของตัวเองคนเดียวก็ทำเป็นหูตาบอดมองไม่เห็นสายตาโกรธเคืองของเขาไปอย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
อาคาชิแตะปากจูบลงมาตามผิวเนียนแสนบริสุทธิ์ช้าๆอย่างไม่เร่งร้อนพร้อมๆกับฝากรอยแดงเหมือนสีผมตัวเองไว้ยังทุกๆที่ไล่ผ่านมาอย่างสนุกสนาน
ก่อนจะดึงเสื้อเชิร์ตซึ่งหลบซ่อนอยู่ใต้เครื่องแบบนักเรียนของอีกฝ่ายมาตลอดอย่างแรงจนรังกระดุมขาดกระเด็น
หนุ่มน้อยวัยมัธยมต้นเจ้าของเครื่องแบบร้องเบาๆอย่างตกใจเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็ทำท่าร้อนใจขี้เกียจปลดกระดุมทีละเม็ดขึ้นมาเฉยๆ
ใบหน้าแดงระเรื่อเริ่มขึ้นสีจัดหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นว่ากลุ่มผมสีแดงที่คุ้นเคยกำลังเฝ้าคลอเคลียอยู่กับแผ่นอกขาวของเขา
"อ๊ะ...ย...อย่านะ"
หนุ่มน้อยไร้เดียงสาตัวสั่นสะท้านเมื่อโดนคนที่คร่อมทับอยู่ก้มหน้าลงมาครอบครองจุดอ่อนไหวบนแผ่นอกทั้งสองข้างอย่างกะทันหัน
ขณะที่มือซุกซนของอีกฝ่ายยังไม่วายลูบไล้ไปตามต้นขาอย่างเชื่องช้าราวกับต้องการหยั่งเชิงให้หัวใจของเขาสับสนกับสัมผัสที่เต็มไปด้วยความต้องการที่ล้นปรี่
"อ๊า...!"
คุโรโกะหลุดเสียงครางเมื่อโดนฝ่ามือหนาแกล้งหยอกเย้ากับส่วนอ่อนไหวที่อยู่ใต้ร่มผ้าอย่างจงใจจนใบหน้าแดงก่ำ
เด็กน้อยตกใจกับเสียงครางแว่วหวานที่ดังก้องออกมาจากปากของตัวเองจนต้องยกมือสองข้างขึ้นมาปิดปากไว้แน่นอย่างอับอาย
ขณะที่หนุ่มร่างสูงด้านบนยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นคนอ่อนวัยกว่าเริ่มเรียนรู้ถึงอวัยวะที่ไหวต่อสัมผัส
และชวนให้หวั่นไหววาบวามทุกครั้งที่มือของเขาพาดผ่าน
ยิ่งเห็นคนตัวเล็กสะอื้นไห้ด้วยความรู้สึกเสียวซ่านที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเท่าไหร่
หนุ่มผมแดงก็ยิ่งได้ใจและยิ่งอยากรังแกอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีกอย่างอดไม่ได้ อาคาชิหัวเราะในลำคอเบาๆขณะดึงรั้งกางเกงของคุโรโกะลงมากองอยู่ที่ขาและโยนมันออกไปอย่างไม่ใส่ใจ
ก่อนจะหันมาแยกขาที่กำลังสั่นระริกของเด็กน้อยออกจากกันแทน พร้อมกับเริ่มขยับนิ้วทั้งห้าไปตามผิวสัมผัสของสิ่งที่เริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับเขาขึ้นมาทีละน้อยอย่างเอ็นดู
"อื้อ...อึก...."
ใบหน้าอ่อนหวานเปื้อนน้ำตาส่ายหน้าปฏิเสธอย่างไม่เข้าใจ ยิ่งถูกอาคาชิรูดรั้งสิ่งที่อยู่ในมือมากเท่าไหร่
ความรู้สึกบางอย่างก็ยิ่งวิ่งแล่นไปทั่วร่างกายจนยากจะควบคุม มือสองข้างยิ่งทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆในการช่วยกันปิดเสียงร้องของเขาเอาไว้ไม่ให้หลุดลอดออกมา
จนริมฝีปากที่ยังไม่หายบวมเจ่อต้องกัดนิ้วตัวเองไว้แน่นด้วยความอับอายเมื่อความรู้สึกอึดอัดตรงช่วงล่างถูกกระตุ้นให้พุ่งสูงขึ้นจนอยากจะกรีดร้องระบายมันออกมาเต็มทน
"อย่ากลั้นเสียง..."
คนขี้แกล้งกระซิบเสียงพร่าอยู่ข้างหูอย่างอ่อนโยนทั้งๆที่มือยังไม่ยอมหยุดขยับ มืออีกข้างเอื้อมมาเช็ดน้ำตาแห่งความปรารถนาของเขาแผ่วเบา
ก่อนจะหัวเราะขบขันอย่างเอ็นดูระคนสงสารที่เห็นเขายังไม่ยอมปล่อยมือ
"ไม่ต้องเก็บไว้หรอก...ร้องออกมาเถอะ...ให้ฉันได้ยินเสียงของเท็ตสึยะ..."
อาคาชิขยับมือเร็วขึ้น กระตุ้นให้อารมณ์ของเด็กน้อยพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า แต่กระนั้นคนดื้อรั้นของเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ
และยังเอาแต่ส่ายหน้าสะอึกสะอื้นอยู่เช่นเคยต้องเขาต้องจูบที่ข้างขมับอีกฝ่ายเบาๆอย่างปลอบโยน
คุโรโกะใจชื้นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ่อนโยนของริมฝีปากเรียวที่กดจูบลงมาอย่างปลอบประโลม
ในใจนึกขอบคุณอาคาชิอย่างซาบซึ้งใจที่เข้าใจความไร้เดียงสาของมือใหม่อย่างเขา และยอมให้โอกาสเขาได้ค่อยๆเรียน....
"อ๊ะ...ท่านเซย์จูโร่
จะทำอะไรครับ!"
นึกชมอีกฝ่ายยังไม่ทันจบ คนแรงเยอะกว่าก็แกะมือสองข้างของเขาที่ใช้ปิดปากตัวเองอยู่ขึ้นไปไว้เหนือศีรษะ
ก่อนจะจับยึดเอาไว้จนขยับไปไหนไม่ได้
"ฮึก...ปละ..ปล่อยผมนะครับ...ไม่เอา..."
"ขอโทษนะเด็กน้อย...แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้...ก็ไม่ได้ยินเสียงที่อยากฟังน่ะสิ..."
"อ๊ะ...อย่า...อ๊า!!"
ว่าจบอาคาชิก็ใช้มือข้างที่ว่างรังแกส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายต่อทันทีจนร่างเล็กหลุดเสียงครวญครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อไร้เครื่องกำบัง
เรียวปากบางส่งเสียงครางหวานออกมาดังลั่นเมื่อห้วงอารมณ์ดำเนินมาถึงขีดสุดจนต้องปลดปล่อยหยาดหยดสีขาวออกมาเต็มฝ่ามือหนาของคนที่อยู่ด้านบน
แผ่นอกขาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยจ้ำแดงกระเพื่อมขึ้นลงถี่รัวอย่างเหนื่อยอ่อน
"หึหึ...เร็วจริงๆ...ยังอ่อนประสบการณ์ขนาดนี้เลยเหรอเท็ตสึยะ"
ชายหนุ่มผมแดงหัวเราะเบาๆอย่างเอ็นดู จนคนที่โดนปรามาสเม้มปากแน่นอย่างเจ็บใจที่โดนหัวเราะเยาะ
แต่อีกฝ่ายก็คุมเกมได้อย่างอยู่หมัดจนราวกับเขาเป็นเด็กเพิ่งหัดเดินจริงๆ
"เอ๊ะ...อ...อะไรน่ะครับ.."
เด็กชายผมฟ้าอุทานเบาๆเมื่อรู้สึกถึงอะไรแข็งๆบางอย่างซึ่งกำลังถูไถอยู่กับต้นขาด้านในของเขาอย่างลามก
"ไม่ต้องกลัว...เซย์จูโร่น้อยแค่อยากจะเล่นด้วยเท่านั้นเอง"
อาคาชิยิ้มกริ่ม ขณะที่ร่างเล็กด้านใต้อ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาเคารพตรงหน้าจะพูดอะไรทะลึ่งตึงตังแบบนี้ออกมาได้เต็มปากเต็มคำ
"อื้อ!!...ฮึก...ม...ไม่เอานะครับ...พอแล้ว"
คุโรโกะหอบหายใจแรงขึ้นเมื่อยังไม่ทันหายเหนื่อย
นิ้วเรียวยาวก็ตวัดปาดของเหลวสีน้ำนมขึ้นมาพร้อมกับเริ่มสอดเข้ามาในกายของเขาช้าๆจนอารมณ์ที่เพิ่งดับมอดไปถูกจุดให้ลุกโพล่งขึ้นมาอีกครา
"ปากไม่ตรงกับใจเลยนะ
ดูสิ...ขนาดเท็ตสึยะน้อยยังไม่โกหกเลย" ชายหนุ่มยิ้มร้าย พลางขยับนิ้วสอดลึกเข้ามาเรื่อยๆ
เรียกให้น้ำตาแห่งความอึดอัดเอ่อคลออยู่เต็มอัญมณีสีฟ้าสวยอย่างงดงามจนยากจะละสายตาไปได้
เสียงร้องกระท่อนกระแท่นดังไม่หยุดเมื่ออาคาชิเริ่มเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปสำรวจในช่องทางสีหวานเป็นสองนิ้ว
จนคนที่ยังโดนพันธนาการมือสองข้างไว้เผลอขยับสะโพกหนีอย่างหวาดกลัว
เสียงเฉอะแฉะดังก้องไปทั่วห้อง ชวนให้ใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบไม่อยากมองใบหน้าคมเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย
แต่ยิ่งหลับตาลง สัมผัสที่ขยับเข้าออกอยู่ตรงช่วงล่างกลับยิ่งแจ่มชัดจนแทบจะร้องไห้
จมูกโด่งรั้นงดงามขยับเข้ามาสูดดมกลิ่มหอมสะอาดสดชื่นของกลุ่มผมสีฟ้าที่เขาหลงรัก
กดจูบบนริมฝีปากนุ่มอีกครั้งเพื่อเบนความสนใจ ก่อนจะขยับนิ้วเพิ่มเข้าไปอีกจนร่างเล็กกระตุกเกร็งรัดนิ้วทั้งสามแน่น
"อื้อ...ฮึก"
คุโรโกะส่งเสียงอยู่ในลำคอเมื่อความรู้สึกทรมานบีบรัดลงไปกองกันอยู่ตรงช่วงล่างจนน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว ทั้งต้องการแต่ก็แสนผวา ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร
แต่มันช่างอึดอัดและน่ากลัวเกินจะรับไหว ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ไม่รู้ว่าต้องขอร้องอีกฝ่ายเช่นไร...ถึงจะยอมช่วยให้เขาได้ระบายมันออกไปจนหมดสิ้น
"ฮึก...ฮึก...อึดอัด...ไม่เอาแล้ว...หยุดเถอะครับ"
เด็กน้อยร้องไห้เบาๆอย่างไร้เดียงสา เพราะความไม่เข้าใจทำให้สองมือขยับดิ้นหนีอย่างอ่อนแรง
ขาสองข้างดิ้นรนถอยห่างออกมาจากนิ้วทั้งสามอย่างตกตื่น จนช่องทางยิ่งบีบรัดนิ้วของอาคาชิแน่นจนแทบทนไม่ไหว
"ไม่ต้องกลัว...ใจเย็นๆ....เชื่อใจฉันนะ..."
ร่างสูงยอมปล่อยทั้งมือสองข้างของคุโรโกะ ทันใดนั้นร่างเล็กก็ผลักไสเขาทันที แต่อาคาชิก็ยังโอบเด็กน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
ตบหลังเบาๆคล้ายกำลังปลอบโยนเด็กตัวเล็กๆให้หยุดร้องไห้ พร่ำกระซิบเสียงทุ้มต่ำอันแสนหวานให้คนไร้ประสบการณ์ได้คลายความหวาดกลัว
มือแกร่งดันร่างบอบบางที่ยังสั่นเทาเหมือนลูกกวางแรกเกิดลงไปนอนบนเตียง ก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าใสทั้งสองข้างอย่างลึกซึ้ง
"ฉันสัญญาว่าจะอ่อนโยน
สัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ็บ สัญญาว่าจะทำให้รู้สึกดี...ตกลงนะคนเก่ง..." คุโรโกะพยักหน้ารับอย่างเลื่อนลอย
รู้สึกเหมือนถูกเสน่ห์ของคนตรงหน้าครอบงำจนหมดสิ้นแรงต่อต้าน และทันทีที่นิ้วทั้งสามเคลื่อนออกไป
ความรู้สึกโล่งใจชวนให้ผ่อนคลายก็แผ่ซาบซ่านอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนที่อะไรบางอย่างซึ่งใหญ่โตและแข็งขืนกว่านิ้วมากมายนักจะกดแทรกเข้ามา
ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง เงยหน้าครางสุดเสียงอย่างตื่นตระหนก
เมื่อความอึดอัดและความสุขสมแล่นริ้วขึ้นมาอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งตัว แม้จะไม่เจ็บอย่างที่คิด
แต่สัมผัสที่ช่วงล่างกลับเด่นชัดราวกับมีใครกำลังดึงเขาขึ้นไปบนฟ้า มือเล็กๆพยายามดันขาแข็งแรงของอีกฝ่ายให้ถอยห่างออกไปอย่างตกใจจนอาคาชิต้องรีบเข้ามากอดปลอบ
"ชู่ว...เด็กดี...ไม่เป็นไรนะ...อย่าเกร็ง...หายใจเข้าลึกๆ..."
ดวงตาสีแดงสองข้างหลับลงแน่นเพื่อข่มอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองไว้พร้อมกับนับหนึ่งถึงสิบในใจ
แม้ปากจะปลอบโยนอีกฝ่ายได้อย่างใจเย็นแค่ไหน แต่ใครจะรู้ว่าวินาทีที่เขาเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่ายได้สำเร็จ
ทั้งความต้องการ ความร้อนรุ่ม ความกระหายที่อยากจะกระแทกกายเข้าไปให้ลึกที่สุดก็ทะลักล้นออกมาจนเกือบจะพลั้งมือรุนแรงกับเด็กคนนี้ไป
ความรู้สึกของการได้เป็นคนแรกที่ได้ครอบครองเด็กน้อยผมฟ้าคนนี้มันดีเสียจนเขาไม่อยากเชื่อว่าจะลุ่มหลงและมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับใครได้ถึงขนาดนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะเท็ตสึยะของเขายังเด็กนัก...และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ถูกสัมผัส...
เขาสาบานได้เลยว่าพรุ่งนี้เช้าเท็ตสึยะจะต้องลุกไม่ได้ไปอีกหลายวันแน่ๆ...
อาคาชิ เซย์จูโร่สูดลมหายใจลึก ก่อนจะค่อยๆขยับกายเข้าไปช้าๆอย่างอดทน
ถ้าเขาหลุดเผลอปล่อยใจไปกับตัณหาราคะที่สุ่มกันเหมือนไฟอยู่ในตอนนี้เมื่อไหร่ เด็กคนนี้คงจะต้องแตกสลายไปเพราะรองรับแรงอารมณ์ของเขาไม่ไหวเป็นแน่
ท่ามกลางเสียงครางหวานที่ดังก้องอยู่อย่างต่อเนื่อง ผู้นำตระกูลอาคาชิก็ยิ่งข่มใจได้ยากขึ้นทุกขณะ
จนในที่สุด เขาก็ขยับกายเข้าไปทั้งหมดได้สำเร็จ
ดวงตาสีแดงมองคนที่นอนสะอึกสะอื้นอยู่ใต้ร่างด้วยความรักใคร่
ใบหน้าหล่อเหลาแย้มรอยยิ้มอบอุ่นให้คนที่กำลังครอบครองอยู่จนเด็กชายใจเต้นแรง ความอึดอึดตรงช่วงล่างแปรเปลี่ยนไปเป็นความสุขทีละน้อย
จนเมื่ออาคาชิเห็นว่าเขาเริ่มปรับตัวได้ การขยับกายเข้าออกอย่างร้อนแรงก็เริ่มต้นขึ้นทันที
คุโรโกะหลับตาแน่นก่อนจะหวีดร้องออกมาอย่างตกตื่นระคนสุขสม
มือสองข้างกำผ้าปูที่นอนอย่างแรงเมื่ออีกฝ่ายเร่งจังหวะขึ้นอย่างรวดเร็วจนแทบขาดใจ
ริมฝีปากร้องครวญครางขอให้หยุด แต่ร่างสูงสง่าก็เมินเฉยทุกคำอ้อนวอนไปอย่างหน้ามืดตามัว
จนเมื่อความแข็งขืนสัมผัสกระแทกโดยอะไรบางอย่างด้านใน คนตัวเล็กก็กรีดร้องออกมาดังลั่นอย่างลืมตัว
"เจอแล้ว...จุดอ่อนของเท็ตสึยะ"
หนุ่มผมแดงหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะกระแทกเข้าไปที่จุดนั้นซ้ำๆจนคุโรโกะร้องเสียงหลง
มือสองข้างทั้งผลักไสทั้งดันไหล่แกร่งของอีกฝ่ายออกอย่างหวาดผวา แต่ความรู้สึกดีกลับเอาชนะเขาได้อย่างราบคาบจนต้องยอมแพ้ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับจังหวะรักของอีกฝ่ายที่เร่งเร้ามากขึ้นทุกขณะ
จนเมื่อถึงจุดสูงสุดของห้วงอารมณ์ เขาก็ปล่อยเสียงร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นร้อนที่พุ่งพรวดเข้ามาข้างในจนดวงตาพร่ามัว
ใบหน้าคมก้มมองคนที่นอนหอบหายใจรวยรินอย่างหมดแรงอยู่บนเตียงยับยู่ยี่ด้วยสายตาที่สื่อความหมายบางอย่าง
มือแกร่งจับร่างเล็กพลิกนอนคว่ำลงกับเตียงเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าลงไปกระเซ้าเย้าแหย่ด้วยน้ำเสียงเร่าร้อน
"อย่าเพิ่งหมดแรงนะเด็กน้อย...คืนนี้ยังอีกยาวนานเหลือเกิน"
"เอ๋...!?"
คุโรโกะอุทาน "ม...ไม่เอานะครับ ผมยังไม่หายเหนื่อ...อ๊า!!"
พูดยังไม่ทันขาดคำ อีกฝ่ายก็โถมกายเข้ามาสุดความยาวอย่างรุนแรงจนเด็กน้อยร้องลั่น ไฟราคะที่เพิ่งดับไปยังไม่ถึงสามนาทีถูกจุดให้ลุกโหมกระพือขึ้นมาใหม่ทันที
"ร้องได้ขนาดนี้คงไม่ต้องห่วงแล้วล่ะนะ"
อาคาชิพูดอย่างขบขัน แต่คนที่โดนรังแกไม่เลิกกลับไม่ตลกด้วยเมื่อคนที่ทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่อยู่ข้างหลังแทรกกายเข้าออกถี่รัวจนเขาทำได้แต่ส่งเสียงร้องน่าอายออกไปอย่างหมดแรงขัดขืน
ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแดงได้แต่ขยับหนีอย่างไร้ทางสู้ เมื่อคนนิสัยไม่ดีเอาแต่สัมผัสเขาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้ว่าไปอดอยากมาจากไหน
"อึ้ก!...ท...ท่านเซย์จูโร่..."
คุโรโกะร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่วเมื่ออาคาชิจับยึดสะโพกของเขาไว้แน่นไม่ยอมให้หนี
ก่อนจะฉุดร่างเล็กให้ขึ้นมานั่งพิงเขาเอาไว้ทั้งๆที่กายยังเชื่อมต่อกันอยู่จนหนุ่มผมแดงสามารถกดแทรกเข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้นกว่าเดิม
อาคาชิหลับตาฟังเสียงครางแว่วหวานที่เอาแต่ร้องเรียกชื่อเขาอย่างมีความสุข
ยิ่งเด็กน้อยคนนี้ร้องหาเขาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้มากขึ้นเท่านั้น ภายในห้องนอนที่มืดสลัวมีเพียงแสงจันทร์ลอดเข้ามา
ส่องให้เห็นร่างสูงสง่าที่ตระกองกอดคนในอ้อมแขนไว้แน่น จนแรงปรารถนาพาทั้งคู่ไปถึงจุดสุดท้ายอีกครา
มือแกร่งขยับเอนร่างกายผอมบางลงไปนอนบนเตียงเบาๆ
เมื่อเห็นว่าดวงตาสีฟ้าเริ่มเลื่อนลอย ใกล้จะผล็อยหลับเต็มที ชายหนุ่มจึงก้มหน้าลงไปกระซิบบอกข้างหู
"ครั้งสุดท้ายแล้วนะ...เด็กดี"
ว่าจบ อาคาชิก็ดันกายเข้าไปในช่องทางนุ่มอีกครั้งจนคุโรโกะแทบสำลักอากาศ
บทเพลงรักบทสุดท้ายถูกหนุ่มผมแดงบรรเลงด้วยความอ่อนหวานอย่างเห็นใจที่เขาใกล้หมดแรงเต็มทน
สัมผัสที่เคยร้อนแรงยิ่งทวีความอบอุ่นมากขึ้นทุกขณะจนเขาอยากร้องไห้
ใบหน้าที่อยู่ด้านบนคือคนที่เขาเฝ้าตามหามาตลอด...คนที่เขาหลงรัก...คนที่เขาเชื่อว่าจะยอมปล่อยวางความแค้นทั้งปวง....
"ท่าน...เซย์จูโร่..."
คุโรโกะกระซิบเรียกชื่ออาคาชิเสียงเบาขณะที่อีกฝ่ายยังไม่หยุดขยับ
"ยอม...ปล่อยคุณแม่...แล้วใช่ไหมครับ..."
ดวงตาสีฟ้าสั่นไหว ทอประกายราวกับไพลินและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะพรรณาขณะช้อนตาขึ้นสบกับดวงตาสีแดงคู่งาม
"ยอมแลกความแค้น...กับความรักของผมแล้วใช่ไหมครับ..."
ถามด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเว้าวอนและปนเปไปกับเสียงครวญครางชวนให้หัวใจคนฟังสั่นไหว
อาคาชิจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนที่ใกล้จะร้องไห้เต็มทนอย่างไม่อาจละสายตาไปได้
ใช้ความรักมาแลกกับความแค้นงั้นหรือ...ให้ตายเถอะ...
....เด็กคนนี้...ทำให้เขาแปลกใจได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเลยจริงๆ...
แถมยัง...ทลายกำแพงน้ำแข็งในหัวใจเขาไปจนหมดสิ้น
ทำให้หวั่นไหวได้ถึงขนาดนี้
ทำให้เขาต้องยอมลงให้ถึงขนาดนี้
"...ตกลง...ฉันยอมรับข้อแลกเปลี่ยนของเธอ..."
อาคาชิขยับรอยยิ้มขึ้น ก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากบนหน้าผากคุโรโกะเบาๆอย่างอ่อนโยน
"พรุ่งนี้...คาโอริซังจะกลับมาถึงคฤหาสน์อย่างปลอดภัย..."
"ฮึก...สัญญานะครับ..."
เด็กน้อยถามด้วยใบหน้านองน้ำตาอย่างซาบซึ้ง
"ฉันสัญญา..."
"ผม...ฮึก...รัก...ท...ท่านเซย์จูโร่...."
คุโรโกะพูดเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่ออาคาชิขยับกายเข้าออกรัวเร็วจนใกล้ถึงอีกฝากฝั่งของห้วงอารมณ์อีกครั้ง
จนเมื่ออาคาชิปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดเข้าไปข้างในร่างกายเล็กๆ เสียงหวานจึงหวีดร้องออกมาเป็นครั้งสุดท้าย
"รักที่สุด..."
ใบหน้าอ่อนเยาว์เหม่อมองทิวทัศน์อันพร่าเลือนตรงหน้าด้วยแววตาอันแสนลึกล้ำ
ขยับปากกระซิบคำหวานออกมากับสายลม ดวงตาสีฟ้าปิดลงช้าๆ...และแล้ว...เด็กน้อยก็ผล็อยหลับไป...
**แฮ่
บทนี้ยังไม่จบนะคะ อย่าเพิ่งเลือดหมดตัวจนปิดไปก่อนน้า กลับไปอ่านบทนี้ต่อที่ลิ้งนี้ได้เลยค่ะ**